บล.เคจีไอ :
การเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบทางการเป็นประเด็นกดดัน
Event
สรุปประเด็นสำคัญจากประชุมผู้บริหาร และอัพเดตแนวโน้ม
lmpact
ยังมีประเด็นค้างคาด้านกฏเกณฑ์ของทางการ
เราได้จัดประชุมออนไลน์เพื่อคุยกับผู้บริหารในประเด็นความกังวลเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของทางการ ทั้งนี้ MTC และผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนอื่น ๆ อีกประมาณ 10 บริษัท (คิดเป็นจำนวนบัญชีสินเชื่อประมาณ 75-80% ของธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียน) กำลังร่วมกันสรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกมารตรการช่วยลูกหนี้เพิ่มเติม และอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ภาครัฐอาจจะนำมาใช้ซึ่งเนื้อหาครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆ
ดังนี้
1.) ให้ลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนลงแบบถาวร หรือชั่วระยะเวลาหนึ่ง
2.) ให้ใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ สำหรับกลุ่มลูกหนี้พิเศษ
3.) เปิดช่องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้เมื่ออัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนมาเป็นขาขึ้น ทั้งนี้ กรอบเวลาจะขึ้นอยู่กับกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งคาดว่าจะกินเวลา 3-4 เดือน
น่าจะมีการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก
จากหลาย ๆ ทางเลือกที่มีผู้ประกอบการหารือกัน MTC คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกันหลักประกัน/สินเชื่อจำนำทะเบียน/สินเชื่อ Nano ลงจากปัจจุบันที่ 24%/25%/33% ทั้งนี้ MTC ได้ลดดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราสูงสุดอย่างมาก (รถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ 15%, รถยนต์อยู่ที่ 18%)
เราจึงมองว่าการลดเพดานดอกเบี้ยจะไม่กระทบผู้เล่นรายใหญ่ (อย่าง MTC) แต่จะกระทบกับผู้เล่นรายเล็ก อย่างไรก็ตาม เรามองว่าความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการในกรณีของ MTC อยู่ที่กลุ่มสินเชื่อ Nano (20% ของสินเชื่อรวม) ซึ่ง MTC ที่บริษัทคิดดบ. 24-27% การลดเพดานดอกเบี้ยที่กว่านี้ 1% จะกระทบกำไร 2%
สินเชื่อจะโตได้อย่างแข็งแกร่งถึง 25%
จากการที่ GSB หั่นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนเหลือเพียง 11-15% MTC จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์เหลือ 15% และรถยนต์เหลือ 18% (จากเดิม 21% ก่อนที่ GSB จะเข้ามาในตลาด) และขยายสินเชื่อไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ในสินเชื่อ H/P ซึ่งมียีลด์อยู่ที่ 24% ในขณะที่ยังคงอัตราการขยายสินเชื่อ Nano (คิดดอกเบี้ย 27% ต่ำกว่าเพดานดอกเบี้ย 6%)
ซึ่งจนถึงขณะนี้ สินเชื่อ H/P ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าสัดส่วนเป็น 8-10% ของสินเชื่อรวมภายในสิ้นปีนี้ และจะหนุนให้สินเชื่อโตเกินคาดที่ 25% (จากประมาณการเดิมที่ 20%) ทั้งนี้ หากใช้สมมติฐานยีลด์สินเชื่อเช่าซื้อ 24% และของสินเชื่อจำนำทะเบียนอยู่ที่ 16.5% จะทำให้ยีลด์ของสินเชื่อโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 19.5% (จาก 20% ใน 1Q64 และ 21.3% ในปี 2563) ในขณะที่เราคาดว่า yield สินเชื่อปี 2564/65 จะอยู่ที่ 19.6%/20%
คงคำแนะนำถือ และราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 69 บาท (P/E ที่ 20x)
ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานของ MTC จะไม่ถูกกระทบมากนักจากการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของทางการ และสนามการแข่งขันที่เปลี่ยนไปที่มีธนาคารเข้าแข่งขัน และการแข่งขันกันระหว่างผู้ประกอบการนอนแบงก์ ทำให้ MTC เผชิญความเสี่ยงในแง่ของการราคาหุ้นที่ซื้อขายด้วย PE สูงกว่าคู่แข่ง
Risks
NPL เพิ่มขึ้นมากเกินคาด, ผลขาดทุนจาก FVTPL, และอัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม.