ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับขึ้น แต่ยังอยู่ในกรอบจำกัด
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันพุธปรับตัวขึ้นแต่ยังอยู่ในกรอบที่จำกัด… หลังจากเมื่อวานนี้ ดัชนีฯ รีบาวด์แต่ยืนไม่ได้ สุดท้ายกลับมาปิดลบเล็กน้อย (ตามคาด) หลังจากนักลงทุนต่างชาติยังอยู่ในฝั่งขายสุทธิต่อเนื่องจากปัจจัยลบเรื่องผลประชุมเฟดปลายสัปดาห์ที่แล้ว…

สำหรับในวันนี้ภาวะตลาดหุ้นดูดีขึ้น หลังประธานเฟดแถลงเมื่อคืนนี้ในเชิงบวกต่อสินทรัพย์ทางการเงิน และลดความกังวลต่อเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ โดยนาย Jerome Powell ประธานเฟดกล่าวว่าเขามั่นใจว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นจะเป็นภาวะชั่วคราว และจะกลับสู่เป้าหมายของเฟด (เงินเฟ้อพื้นฐาน 2.0%) ได้ในอนาคต นอกจากนี้นาย Powell ยังเน้นย้ำว่าเฟดจะดำเนินนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจจนกว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่การจ้างงานเต็มที่ (full employment) ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบสนองในเชิงบวกและดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ อ่อนค่าลง…

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขสำคัญ ได้แก่ core PCE inflation ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. ที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ ส่วนปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้ในที่ประชุม ครม. นายกฯ สั่งการให้เร่งฉีดวัคซีนฯ ให้ได้วันละ 5 แสนคน (จากปัจจุบันเฉลี่ยวันละเกือบ 4 แสนคน) เพื่อบรรลุเป้าหมายเปิดประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี ส่วนในวันนี้ กนง. ประชุมนโยบายการเงิน ซึ่งเราคาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% และน่าจะปรับประมาณการ GDP ไทยปี 2564 ลงเล็กน้อยจากปัจจุบันมอง 3.0%

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร MAJOR*, SIRI, PSTC

MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 28.25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 24 บาท / แนวต้าน 25.5 – 26.5 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินแนวต้านถัดไป 28 บาท (Stop loss 23.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไป (2Q64 เป็นจุดต่ำสุดของวัฏจักรรอบนี้) โดยฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปี 2564 = 345 ล้านบาท แม้ว่าจะคาด 1H64 ขาดทุนสุทธิ (ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2H64 เร่งตัวขึ้น) และคาดกำไรปี 2565 ฟื้นตัวกลับมาที่ระดับ 1 พันล้านบาท/ปี (Forward PE ปีหน้าจะต่ำเพียง 20 เท่า) 3) ราคาหุ้น Laggard บ.ลูก SF โดย SF ปรับขึ้นแล้ว +124% YTD ขณะที่ MAJOR* ปรับขึ้นราว 33%YTD (MAJOR* ถือหุ้น SF 29.6%)

SIRI (เป้า Consensus 1.02 บาท … สูงสุด 1.60 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 1.35 บาท / แนวต้าน 1.4 – 1.5 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 1.6 บาท (Stop loss 1.30 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกของอุตสาหกรรมอสังหาฯ จาก i) การเตรียมเปิดประเทศรับต่างชาติ ii) ภาครัฐฯเตรียมศึกษาผ่อนคลายให้ต่างชาติซื้ออสังหาฯในไทย iii) คาดอุตสาหกรรมอสังหาฯปีนี้เป็นจุดต่ำสุด 3) คาดรับ Sentiment บวกจากการลงทุนในหุ้น XPG และล่าสุดตั้งธุรกิจ AMC (บริหารสินทรัพย์) 4) Valuation ไม่แพง PBV 0.53 เท่า ยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี

PSTC (เป้า Consensus 2.95 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.74 บาท / แนวต้าน 3.0 บาท กรณีผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 3.5 บาท (Trailing stop 2.6 บาท) 2) ประเมินแผน PDP2022 ใหม่ จะเน้นเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน โดยลดโรงไฟฟ้าถ่านหิน คาดเป็นบวกต่อปริมาณงาน EPC รับเหมาสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของ PSTC … ด้วยธีมการลงทุนนี้นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้น EPC ตัวอื่น อาทิ DEMCO, GUNKUL* 3) Consensus ประเมินกำไรปี 2565 จะเติบโต +216% YoY เป็น 351 ล้านบาท จากการเริ่มรายได้ธุรกิจท่อขนส่งน้ำมันภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 4Q64 นี้ (คาดรายได้ 1.5 – 2 พันล้านบาทต่อปี / อัตรากำไรขั้นต้น ±40%) ขณะที่ PBV ยังเทรดต่ำเพียงใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี 1.15 เท่า

หุ้นมีข่าว
(-) BBL* อุบปันผลครึ่งปี รื้อแผนธุรกิจรับมือโควิด (กรุงเทพธุรกิจ) “ธนาคารกรุงเทพ” รับโควิด-19 กระทบธุรกิจธนาคาร ส่งผลต้องปรับแผนให้สอดรับ พร้อมอุบจ่ายปันผลระหว่างกาลปี 64 หรือไม่ เชื่อหากไม่จ่ายปันผลผู้ถือหุ้นเข้าใจ เพราะธนาคารต้องดูแลพอร์ตลูกหนี้ สร้างความแข็งแกร่งต่อเนื่อง หวั่นหนี้เสียทั้งระบบพุ่งเกิน 4% ในไตรมาส 2 ปีนี้

(+) กัญชงเขย่าตลาดคึก! DOD-RBF* วิ่งปรอทแตก (ข่าวหุ้น) ลุยขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับ ‘อย.’ เร็วๆ นี้ วานนี้หุ้นกลุ่มกัญชงเขย่าตลาดคึก! DOD นำทีมราคาหุ้นวิ่งกระฉูด 9.56% ตามมาด้วย RBF* พุ่งแรง 5.64% หลังนักลงทุนแห่เข้าเก็งกำไร ล่าสุด DOD โชว์ข่าวดี! คว้าใบอนุญาตสกัดน้ำมันจากเมล็ดกัญชงเป็นรายแรกของไทย พร้อมลุยขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สำเร็จกับอย. ให้กลุ่มพาร์ตเนอร์ “JKN-KISS-BEAUTY-CHAYO-FN” ที่เซ็น MOU ในเร็วๆ นี้ ลั่นเตรียมเดินเครื่องผลิตส่งมอบออเดอร์ตามแผนภายในไตรมาส 4/64

(+) HFT หุ้นแลกการ์ด ลุ้นปีนี้กำไรนิวไฮ (ข่าวหุ้น) HFT หุ้นแลกการ์ด-พื้นฐานแกร่งโตสวนโควิด-19 “ผู้บริหาร” ลั่นผลงานปีนี้จ่อกำไรนิวไฮ คาดรายได้รวมตามนัดโต 3,200 ล้านบาท หลังอัตราเดินเครื่องผลิตยางจักรยาน-จักรยานยนต์สูง 95-100% โชว์ออเดอร์แน่นถึงไตรมาส 2/65 ทุ่มงบลงทุนปี 64-65 กว่า 600 ล้านบาท

(+) TPLAS ขยายบรรจุภัณฑ์อาหารเต็มสปีด ดีมานด์พุ่งวางเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า10% (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก เดินหน้าขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารที่ทำจากกระดาษ ลุยเพิ่มเครื่องจักรใหม่ “FoodBox” 6 เครื่อง เครื่อง “FoodBowl” 1 เครื่อง และเครื่องบรรจุอัตโนมัติ 2 เครื่อง ผู้บริหารเผยสถานการณ์โควิด-19 หนุนความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารทุกประเภทเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ช่วยสร้างยอดขายและรายได้เพิ่ม มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

(+) ‘ธุรกิจเอเอ็มซี’ เพิ่มงบซื้อหนี้ CHAYO ชี้ โควิดดัน ‘แบงก์’ ตัดขายเอ็นพีแอลแตะ 5.6 แสนล้าน (กรุงเทพธุรกิจ) JMT* เพิ่มเงินลงทุนเป็นหมื่นล้าน จากเดิม 6 พันล้าน CHAYO คาดปี 64 แบงก์ เทขาย เอ็นพีแอล ระดับ 5.3-5.6 แสนล้าน เอ็นพีเอแสนล้าน เหตุโควิดทำหนี้ในระบบพุ่ง เพิ่มงบซื้อเป็น 2 พันล้าน จากเดิม1.2 พันล้าน ด้าน JMT* ทุ่มเป็น 1 หมื่นล้าน เดิมอยู่ที่ 6 พันล้าน หนุนรายได้ปีนี้โตตามเป้า 30%

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดล๊อกกำไรหากราคาปิดต่ำกว่า Trailing stop: III (Trailing stop 13.0 บาท) BEC* (Trailing stop 13 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐ่าน 6.6 บาท) แนวรับ 6.5 บาท / แนวต้าน 6.85 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 6.4 บาท)
SIMAT (เป้าพื้นฐาน 6.8 บาท) แนวรับ 5.8 บาท / แนวต้าน 6.65 – 7.0 บาท (Trailing stop 5.5 บาท)
GPSC* (เป้าพื้นฐาน 79.25 บาท) แนวรับ 74 บาท / แนวต้าน 77 – 80 บาท (Stop loss 73.5 บาท)
EPG* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 11 บาท / แนวต้าน 11.6 – 12.0 บาท (Stop loss 10.8 บาท)
WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนวรับ 3.32 บาท / แนวต้าน 3.44 – 3.6 บาท (Stop loss 3.2 บาท)
BJC* (เป้า Consensus 40 บาท) แนวรับ 35 บาท / แนวต้าน 36.5 – 40 บาท (Stop loss 34.5 บาท)
ECL (เป้าพื้นฐาน 2.48 บาท) แนวรับ 2.0 บาท / แนวต้าน 2.16 – 2.30 บาท (Stop loss 2.0 บาท)
CPALL* (เป้าพื้นฐาน 70 บาท) แนวรับ 61 บาท / แนวต้าน 63 – 65 บาท (Stop loss 60 บาท)
W (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนวรับ 3.4 บาท / แนวต้าน 3.8 – 3.9 บาท (Stop loss 3.3 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
MTC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 69 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินความเสี่ยงจากผลกระทบของมาตรการภาครัฐฯต่อผลการดำเนินงานของ MTC* ในระดับที่ต่ำ ขณะที่อัตราการเติบโตของสินเชื่อคาดว่าจะยังเร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ดีความเสี่ยงจากมาตรการภาครัฐฯจะยังเป็นปัจจัยกดดันในระยะสั้น – กลาง จนกว่าจะมีความชัดเจน ทั้งนี้ MTC* เทรดที่ PE >20 เท่า ซื้อขายในระดับที่พรีเมี่ยมกว่าหุ้นตัวอื่นในกลุ่มฯ ฝ่ายวิจัยฯจึงแนะนำเพียง “ถือ”

SFT แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8 บาท ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ Initiate coverage ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8 บาท โดยประเมินอัตราการเติบโตของกำไร +28% CAGR (2563 – 66) ทั้งผลจากการเติบโตของยอดขายตามภาวะอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม + Economy of scale ที่จะเป็นผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น

Strategic SET daily
Market strategy Thailand

จิตวิทยาตลาดวันนี้: — ค่าเฉลี่ยสามสิบวันที่นัยรับ 1598 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1598 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1598-1617 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1598 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1598-1588 จุด

แนวรับวันนี้: 1598/1589 แนวต้านวันนี้: 1607/1615

- Advertisement -