บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง :
ประเด็นการลงทุน
ตัวเลขอุตสาหกรรมรถยนต์เดือน พ.ค. แบ่งเป็น ยอดผลิตรถยนต์ อยู่ในเกณฑ์ดี 140,168 คัน (+34%MoM, +150%YoY) ตลาดรถยนต์ในประเทศชะลอตัวจากเดือนก่อนเหลือ 55,942 คัน (-4%MoM, +38%YoY) และ ยอดส่งออก เติบโตดี 79,479 คัน (+50%MoM, +166%YoY) สำหรับตัวเลข 5 เดือนแรก ยอดผลิตรถยนต์ 710,356 คัน เพิ่มขึ้น 33%YoY ยอดขายในประเทศ 308,211 คัน เพิ่มขึ้น 14%YoY และ ยอดส่งออก 390,467 คัน เติบโต 30%YoY แนวโน้มปี 2564 เราประเมินยอดผลิตรถยนต์ 1.7 ล้านคัน เติบโต 19% แต่ยังต่ำกว่าระดับปกติก่อน Covid-19 ประมาณ 2 ล้านคัน เราคงน้ำหนักลงทุนกลุ่มยานยนต์เท่าตลาด (NEUTRAL)
ยอดผลิตรถยนต์ พ.ค. ฟื้นตัวดีขึ้น
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ประจำเดือน พ.ค. ฟื้นตัวดีขึ้น 140,168 คัน (+34%MoM, +150%YoY) รวม 5 เดือนแรก มียอดผลิตรถยนต์รวม 710,356 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 33% เราคงประเมินยอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ 1.7 ล้านคัน เติบโต 19%
ตลาดรถยนต์ในประเทศ พ.ค. ชะลอตัวต่อ
ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน พ.ค. เท่ากับ 55,942 คัน ชะลอตัวลดลงจากเดือนก่อนต่อ -4%MoM จากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกที่สาม รวมทั้งสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ แต่เติบโตสูงจากปีก่อน 38%YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน รวม 5 เดือนแรก มียอดขายรวม 308,211 คัน เพิ่มขึ้น 14%YoY แนวโน้มปี 2564 เราประเมินตลาดรถยนต์ในประเทศจะมียอดขายรวม 850,000 คัน เติบโต 7%YoY ในขณะที่ค่ายรถยนต์โตโยต้าประเมินตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ 850,000-900,000 ตัน เพิ่มขึ้น 7-14%YoY
การส่งออกรถยนต์ พ.ค. กลับมาเติบโตดี
ยอดส่งออกรถยนต์เดือน พ.ค 79,880 คัน กลับมาเติบโตได้ดี (+50%MoM, +166%YoY) เพราะประเทศคู่ค้าเริ่มมียอดขายรถยนต์ในประเทศดีขึ้น รวม 5 เดือนแรก การส่งออกรถยนต์ 390,467 คัน เพิ่มขึ้น 30%YoY
ผลประกอบการไตรมาส 2Q64 กลุ่มยานยนต์คาดจะชะลอตัว
เราประเมินยอดผลิตรถยนต์ในไตรมาส 2Q64 มีแนวโน้มจะชะลอตัวเหลือประมาณ 375,000-385,000 คัน ลดลงจากไตรมาสก่อนถึง 17-20%QoQ ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกสาม ปัญหาชิปขาดแคลน และ เป็นช่วงโลซีซั่น แต่โตสูงจากปีก่อน 144-153%YoY เนื่องจากปีก่อนมีการปิดโรงงานชั่วคราว คาดจะทำให้ผลประกอบการปกติของ AH, SAT, STANLY ไตรมาสสองปี 2564 ชะลอตัวลงจาก 1Q64 แต่จะดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ประสบปัญหาขาดทุน
หุ้นที่เราแนะนำ ซื้อ ในกลุ่ม คือ SAT (เป้าหมาย 24 บาท) STANLY (เป้าหมาย 212 บาท) และ AH (เป้าหมาย 28 บาท) แต่แนะนำให้รอจังหวะช่วงอ่อนตัว หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาแรง และ กำไร 2Q64 จะชะลอตัวลง เราคงน้ำหนักลงทุนกลุ่มยานยนต์เท่าตลาด (NEUTRAL)
