สำนักวิจัยซีไอเอ็มบี ไทย :
สถานการณ์เศรษฐกิจที่สำคัญ
– ฟิทช์คงอันดับเครดิตจีนที่ A+ ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิดแล้ว ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของจีนไว้ที่ A+ พร้อมกับให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ โดยระบุว่า เศรษฐกิจจีนเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวจากโควิด-19 อย่างเต็มที่แล้ว พร้อมกันนี้ ฟิทช์คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 8.4% ในปี 2564 และขยายตัว 5.5% ในปี 2565 (Souce: https://www.ryt9.com/s/iq29/3234946)
– สำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) ได้สั่งให้ Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในโลก ยุติการทำธุรกรรมทั้งหมดในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ FCA ยังได้ออกแถลงการณ์เตือนบรรดาผู้บริโภคให้ระมัดระวังการลงทุนในสกุลเงินคริปโต เช่นเดียวกับที่เคยเตือนเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้ที่ลงทุนในสกุลเงินคริปโตมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินทั้งหมด(Source: https://www.ryt9.com/s/iq29/3234702)
– มาเลเซียขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันนี้ (28 มิ.ย.) หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง ฐบาลมาเลเซียระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์จะได้รับการผ่อนคลายก็ต่อเมื่อยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเฉลี่ยในรอบสัปดาห์ ลดลงต่ำกว่า 4,000 รายต่อวัน ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ใน
ขณะนี้ รัฐบาลมาเลเซียจะอนุญาตให้เฉพาะภาคการผลิตและบริการที่จำเป็นเปิดดำเนินการได้เท่านั้น ขณะที่ศูนย์การค้า โรงเรียน และสวนสาธารณะยังปิดให้บริการอยู่ นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซียยังควบคุมการเดินทางเคลื่อนย้ายของประชาชน โดยจำกัดให้ประชาชนเดินทางออกนอกบ้านได้ครอบครัวละสองคนเท่านั้น และห้ามการเดินทางระหว่างรัฐและเมืองต่างๆ ในประเทศด้วย (Source: https://www.infoquest.co.th/2021/101105)
– ธปท.คาดเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้ราว Q1/66 มองผลกระทบโควิดลากยาว นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว และอาจจะต้องรอถึงไตรมาส 1/66 กว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เท่ากับในระดับที่ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากในการระบาดของโควิด-19 หลายระลอกตั้งแต่ต้นปี 63 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ทั้งการจำกัดการเคลื่อนที่ การงดเดินทาง การเว้นระยะห่าง ลดการรวมตัว เป็นต้น ถือเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบอย่างมากกับภาคการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็มองว่า การออกนโยบายและมาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยประคับประคองธุรกิจต่าง ๆ ให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปได้ ยังมีความจำเป็นจนกว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย (Source: https://www.ryt9.com/s/iq03/3234857)
– สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม พ.ค. ขยายตัวต่อเนื่องตามศก.โลกฟื้น สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน พ.ค.64 อยู่ที่ระดับ 100.47 ขยายตัว 25.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่ต่ำในปีก่อนเนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19
นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในหลายประเทศ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการผลิตและการบริโภค ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยาน) ขยายตัวสูงถึง 63.03%ขณะที่การผลิตรถยนต์ขยายตัวสูงมากในระดับ 3 หลักต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองจากฐานต่ำปีที่แล้วที่มีการล็อกดาวน์จากการระบาดในระลอกแรกช่วงต้นปี 63 ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิต (CapU) เดือน พ.ค.64 อยู่ที่ 65.38% สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกปี 64 (ม.ค.-พ.ค.) ดัชนี MPI ขยายตัวที่ 7.97% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 65.53%(Source: https://www.ryt9.com/s/iq03/3234838)
MONEY MARKET
– ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาท วันจันทร์ (28 มิ.ย ) อ่อนค่าจากวันก่อนเล็กน้อย หลังมีแรงซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่องและมีปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ และยอดติดเชื้อโควิด-19 ที่มีจำนวนมากหนุนให้เงินบาทอ่อนค่า
CAPITAL MARKET
-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์ (28 มิ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินซึ่งเป็นหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,283.27 จุด ลดลง 150.57 จุด หรือ -0.44%
-ตลาดหุ้นไทย วันจันทร์ (28 มิ.ย.) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ โดยเฉพาะการที่ภาครัฐฯยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดึงตลาดฯลง แต่ก็ยังมีแรงซื้อเข้ามาบ้างจากกลุ่มหุ้นภาคการผลิตที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,579.17 จุด ลดลง 3.50 จุด (-0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 68,835.44 ล้านบาท
Analyst View
ค่าเงินปรับตัวอ่อนค่าหลังมีแรงซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่องและมีปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ รวมถึงจำนวนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีจำนวนมากหนุนให้เงินบาทอ่อนค่า โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.81 – 31.96 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ นักลงทุนยังซื้อขายอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเอเชีย
ทั้งนี้ ตลาดติดตามถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) ว่า รัฐบาลมีงบประมาณที่เตรียมไว้แล้วทั้งในส่วนของรัฐบาลและกองทุนประกันสังคม จำนวน 7,500 ล้านบาท โดยจะเร่งดำเนินการเยียวยาใน 6 จังหวัด ประกอบด้วยหมวดธุรกิจต่าง ๆ ได้แก่ ก่อสร้าง ที่พักแรม, บริการอาหาร ศิลปบันเทิงและนันทนาการ ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ซึ่งลูกจ้างในระบบประกันสังคมจะได้รับค่าแรงจากการหยุดงานด้วยเหตุสุดวิสัยจากกระทรวงแรงงาน 50% ของค่าจ้าง หรือไม่เกิน 7,500 บาท สำหรับวันนี้มีปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีมาตรการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมอย่างไร