บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส :
คาดกำไรสุทธิ2Q64F โตกว่า 4 เท่าตัว (YoY)
ราคาเหล็กขยับขึ้น +5% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
คาดกำไรสุทธิ 2Q64F จะเติบโตกว่า 4 เท่าตัวเมื่อเทียบ YoY
มีลุ้นปันผลระหว่างกาลสำหรับ 1H64F (ปกติจ่ายปีละ 1 ครั้ง)
คาดปันผลสำหรับปี 64F ที่ 1 บาท/หุ้น คิดเป็น DY 9.3%
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 12 บาท อิง P/E ปี 65F ที่ 15 เท่า
ราคาเหล็กในตลาดโลกฟื้นตัว +5% ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หนุนโดยราคาวัตถุดิบสินแร่เหล็กที่ทรงตัวสูง และอุปสงค์เหล็กที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก
คาดกำไรสุทธิ TMT งวด 2Q64F จะเติบโตก้าวกระโดด YoY โดยหลักมาจาก GPM ที่อยู่ในระดับสูง 13%+/- เพราะราคาเหล็กในช่วงต้น-กลางไตรมาสเพิ่มขึ้นดี (ขึ้นไปสูงสุดราว 35 บาท/กก.) ในเบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาสนี้จะอยู่ที่365-400 ล้านบาท (ใน 2Q63เท่ากับ 85 ล้านบาท)
สำหรับกำไรสุทธิปี64F คาดทำ All-time high ที่ 1.04 พันล้านบาท (+94%YoY) โดยประมาณการว่าปริมาณขาย+4% เป็น 7.9แสนตัน, ราคาขายเฉลี่ย +43% เป็น 27.5 บาท/กก. และ GMP เฉลี่ยปี64F เท่ากับ 10.5%
ขยายกำลังการผลิต & เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ หนุนผลประกอบการปี65F บริษัทขยายกำลังการผลิตท่อเหล็กอีก 7.8 หมื่นตันต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้น 3Q64F และเริ่มงานเครื่องทดสอบแรงดันน้ำ เพื่อผลิตท่อสำหรับงานระบบใน4Q64F กำลังการผลิต 1.2 หมื่นตันต่อปี(เช่น ท่อน้ำดับเพลิง, ท่อระบบปรับอากาศ เป็นต้น) ซึ่งส่วนนี้จะมาช่วยเสริมรายได้และผลประกอบการปี65F
จ่ายปันผลสูงและอาจมีปันผลระหว่างกาลสำหรับ 1H64F (ปกติจ่ายปีละ 1 ครั้ง) เราประมาณการปันผลปีนี้ไว้ที่ 1 บาท/หุ้น ณ ราคาปัจจุบัน 10.70 บาท คิดเป็น DY สำหรับปี64F สูงที่9.3%
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 12 บาท อิงกับ P/E ปี65F ที่ 15 เท่า เราชอบ TMT ที่เป็นผู้นำด้านค้าเหล็กครบวงจรและให้บริการแบบโซลูชั่นเป็นบริษัทแรกๆของไทย ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 8.3% ในปี55 มาเป็น 16.5%ใน 1Q64 บ่งชี้ถึงความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ดี บริษัททำกำไรได้แม้ในยามวิกฤต และให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายปันผลสูงมาโดยตลอด