บล.เคทีบีเอสที :
เข้าซื้อหุ้น 85% ใน Deltalab ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ในสเปน
เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” และ roll over ไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2022E ที่ 70.00 บาท(เดิม 56.00 บาท) อิง PER 30x เรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากทิศทางดีลใหม่ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทประกาศลงนามสัญญาซื้อหุ้น 85% ใน Deltalab, S.L ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ในสเปน โดยเรามีมุมมองเป็นบวกต่อการขยายธุรกิจสู่ตลาดดังกล่าว ซึ่งเป็นตลาดบรรจุภัณฑ์เฉพาะกลุ่มที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างดีและมีโอกาสขยายตัวในอนาคตอีกมากตาม megatrend การรักษาสุขภาพและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของตลาดโลก ทั้งนี้ เราประเมินหากตั้งสมมติฐาน EBITDA margin ที่ราว 20-25% การเข้าซื้อหุ้น Deltalab จะช่วย add กำไรต่อปี +3-5%
ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2021E ที่ 7.9 พันล้านบาท (+20% YoY) แต่ปรับประมาณการปี 2022E ขึ้น +11% เป็น 1 หมื่นล้านบาท (+26% YoY) โดยเรารวมประมาณการทั้ง 3 ดีลที่มีการประกาศตั้งแต่ต้นปี ได้แก่ Duy Tan, Intan Group, และ Deltalab ซึ่งคาดจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานชัดเจนมากขึ้นในปีหน้าเป็นต้นไป โดยเราประเมินดีลเหล่านี้จะเพิ่มกำไรปี 2022E ราว+7-10%
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น และ outperform SET +13% ในช่วง 1 เดือน จากข่าวดีล M&P ที่มีการประกาศอย่างต่อเนื่อง เรามองว่าหุ้น SCGP มีโอกาสที่จะ outperform ต่อ จาก 1) ทิศทางกำไรที่จะขยายตัวต่อเนื่อง +23% CAGR (2020-22E) และ 2) มีโอกาสในการเห็นดีล M&P อื่น ๆ นับจากนี้ ซึ่งจะเป็น upside ต่อประมาณการ
Event: Company update
ประกาศเข้าซื้อหุ้น 85% ใน Deltalab SCGP ประกาศลงนามสัญญาเข้าซื้อหุ้น 85% ใน Deltalab, S.L ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จดทะเบียนในประเทศสเปน โดยในปี 2020 Deltalab มีรายได้ราว 2.8 พันล้านบาท และสินทรัพย์ 2.1 พันล้านบาท บริษัทคาดจะสามารถแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้นในช่วง 3Q21E
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าการรุกเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ผ่านการเข้าซื้อ Deltalab จะช่วยเพิ่ม synergy จากการขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่มีความ specialized มากขึ้น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ เช่น ถ้วยเก็บตัวอย่างของเหลวจากร่างกาย หลอดเก็บตัวอย่างเลือด เป็นต้น ปัจจุบัน พอร์ตลูกค้าของ Deltalab ราว 93% เป็นกลุ่มลูกค้าในยุโรป ภายหลัง M&P บริษัทเตรียมขยายฐานลูกค้าในตลาดเอเชียมากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงโอกาสจากขนาดตลาดที่ใหญ่ซึ่งมีสัดส่วนถึง 43% และมีอัตราการเติบโตในช่วงปี 2020-25E สูงถึง +7-9% CAGR เทียบกับตลาดยุโรปที่ +6-8% โดยบริษัทอาจมีการพิจารณาตั้งฐานผลิตในภูมิภาคเอเชียในอนาคตอีกด้วย
เราคาดดีลดังกล่าวช่วยเพิ่มกำไรต่อปีราว +3-5% เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการขยายธุรกิจสู่ตลาดวัสดุทางการแพทย์ ซึ่งเป็นตลาดบรรจุภัณฑ์เฉพาะกลุ่มที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างดีและมีโอกาสขยายตัวสูงตามเทรนด์ health awareness และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เราประเมินหากตั้งสมมติฐาน EBITDA margin ที่ 20-25% การเข้าซื้อหุ้น Deltalab จะ add กำไรต่อปี +3-5% สำหรับปี 2021E จะเป็น upside เพียง +1% เนื่องจากเราคาดดีลดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในช่วงปลาย 3Q21E
Implication
คงประมาณการกำไรปี 2021E แต่ปรับปี 2022E ขึ้น เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2021E ที่ 7.9 พันล้านบาท (+20% YoY) แต่ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2022E ขึ้น +11% เป็น 1 หมื่นล้านบาท (+26% YoY) โดยเป็นการรวมประมาณการทั้ง 3 ดีลที่มีการประกาศตั้งแต่ต้นปี ได้แก่ Duy Tan, Intan Group, และ Deltalab ซึ่งจะเพิ่มกำไรปี 2022E ราว +7-10% ทั้งนี้ ดีล Duy Tan และ Intan Group มีการล่าช้าจากกำหนดการเดิมในช่วงกลางปี ทำให้เรามองว่าดีลเหล่านี้จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานชัดเจนมากขึ้นในปี 2022E
Valuation/Catalyst/Risk
เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” และ roll over ไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2022E ที่ 70 บาท (เดิม 56.00 บาท) อิง PER 30x เทียบเท่า 5-year average PER ของกลุ่ม Commerce โดยเรามีมุมมองบวกมากจากดีลใหม่ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และมองว่ายังมีโอกาสที่จะเห็นดีลอื่น ๆ นับจากนี้ ขณะที่เราประเมินทิศทางกำไรในช่วง 2 ปีข้างหน้าจะขยายตัวสูง +23% CAGR (2020-22E)