วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,591.21 จุด เพิ่มขึ้น 3.42 จุด หรือ 0.22% มูลค่าการซื้อขาย 43,074.80 ล้านบาท
5 หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด
1.BANPU ปิดที่ 13.40 บาท ลดลง -2.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,968.99 ลบ.
2.KBANK ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,425.55 ลบ.
3.GUNKUL ปิดที่ 4.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,475.27 ลบ.
4.PTT ปิดที่ 39.00 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,245.87 ลบ.
5.KCE ปิดที่ 74.50 บาท ลดลง -2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,045.21 ลบ.
ขณะที่หุ้นน้องใหม่ SECURE ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 26.50 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 65.62% เพิ่มขึ้น 10.50 บาท (+65.62%) จากราคาขาย IPO 16 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,003.95 ล้านบาท เปิดตลาดที่ 27.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 28.25 บาท และราคาลงต่ำสุด 25.00 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”ซื้อ”หุ้นบมจ.เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว (SECURE) ให้ราคาพื้นฐาน 20.24 บาท โดยบริษัทฯทำธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cybersecurity) และธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่าย ที่ผ่านมา SECURE และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/64 มีกำไรสุทธิ 27.78 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.37 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.72 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.08 บาท
ส่วนตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์คล้ายภูมิภาค เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน ช่วงนี้ยังต้องจับตาโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเปิดวันนี้วันแรก ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-เสียชีวิตทำนิวไฮอีกครั้งยังกดดัน ทำให้ตลาดฯ เป็นการเก็งกำไรหุ้นรายตัว ระหว่างรอผลการประชุมกลุ่มโอเปควันนี้ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ หลังตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนออกมาดีขึ้นดันดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าทำเงินทุนไหลออก บ่ายนี้คงจะแกว่งไซด์เวย์ต่อไป ให้แนวรับ 1,580 แนวต้าน 1,595 จุด
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่ง Sideway ถึง Sideway Down โดยต่างรอดูผลการประชุมกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันนี้ (1 ก.ค.) ซึ่งให้จับตาในเรื่องกำลังการผลิตน้ำมัน และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ หากออกมาดีก็จะถ่วงตลาดฯ หลังจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนออกมาดีส่งผลเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าถ่วงตลาดเอเชียทำให้เงินทุนไหลออก
ล่าสุด ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,533 ราย ประกอบด้วย
– ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,788 ราย
– จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,689 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 44 ราย
– ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย โดยยังคงพบการเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จากเมียนมา และกัมพูชา
– มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 57 ราย แยกเป็นเพศชาย 30 ราย เพศหญิง 27 ราย อายุระหว่าง 30-94 ปี, อายุ 60 ปีขึ้นไป (65%) ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังมาจาก กทม. โดยยังพบมีโรคประจำตัวจาก 3 โรคหลัก ได้แก่ ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 264,834 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 210,702ราย เพิ่มขึ้น 3,223 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 2,080 ราย