บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง :
ความเสี่ยงจำกัด แนะนำ ซื้อ
เราเชื่อว่า Covid-19 ระลอกใหม่และการฉีดวัคซีนที่ช้าได้สะท้อนมูลค่าปัจจุบันแล้วหลังราคาหุ้นร่วง 19% และต่ำกว่าตลาด 18% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เรามองเป็นโอกาสสะสมและคาดว่ารายได้จะค่อยๆ ดีขึ้นจากปี 2565 หนุนโดยการฉีดวัคซีนที่ดีขึ้นและการเปิดประเทศ คงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมายที่ 160 บาท บน P/BV ปี 64 ที่ 0.8 เท่า และ ROE 9.1% ความเสี่ยงที่สำคัญคือคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอกว่าคาด
ผนึก MTL ขายประกันผ่านแบงก์
เรามีมุมมองบวกเล็กน้อยจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดย KBANK จะลงนามในสัญญาขายประกันชีวิตผ่านธนาคารฉบับใหม่ (ระยะเวลา 10 ปี ระหว่างปี 2565 ถึง 2574) เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของเมืองไทยประกันชีวิต (MTL ไม่ได้จดทะเบียน) โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุม EGM ในวันที่ 26 ส.ค. นี้
ธนาคารจะได้รับเงินค่าธรรมเนียมพิเศษรายปีจำนวน 1.27 พันล้านบาท เป็นเวลา 10 ปี และค่าธรรมเนียมโบนัสตามผลงานที่ธนาคารไม่ได้รับในสัญญาครั้งก่อน เราเชื่อว่า KBANK ประเมินมูลค่าที่เพิ่มขึ้นขั้นต่ำจากสถาปัตยกรรมแบบเปิด โดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของ MTL ในตลาดประกันชีวิต MTL มีส่วนแบ่งตลาดใหญ่เป็นอันดับสองที่ 16.6% ในด้านเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ในปี 2563 ในแง่ลบ เบี้ยประกันภัยของ MTL ที่ขายผ่าน KBANK ลดลง 13.6% ใน CAGR 3 ปี จาก 6.9 หมื่นล้านบาทในปี 2560 เป็น 4.5 หมื่นล้านบาทในปี 2563 เนื่องจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอและดอกเบี้ยที่ลดลง
รายได้เพิ่มจากส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ลดลง
เนื่องจาก KBANK มีสัดส่วนการถือหุ้น 38.25% ใน MTL และรวมงบการเงินของ MTL ผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนของ KBANK จะสะท้อนให้เห็นในการลดลงของส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ลดลงจากรายได้ของ MTL ที่ลดลง (รายได้ค่าธรรมเนียมของ KBANK เป็นค่าธรรมเนียมจ่ายของ MTL ดังนั้นจึงหักล้างกัน) ดังนั้น เราจึงปรับประมาณการเพิ่มขึ้น 627 ล้านบาทต่อปีในกำไรปี 65-74 จากรายได้ค่าธรรมเนียมพิเศษหลังหักภาษี (61.75%*THB1.27b*80%) บวกกับค่าธรรมเนียมโบนัสตามผลงานที่ไม่เปิดเผย
โดยในปี 2563 KBANK มีรายได้ 8.7 พันล้านบาทจาก MTL โดยเป็นรายได้ค่าคอมมิชชั่น 5.7 พันล้านบาท และ เป็นส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้นใน MTL อีก 3 พันล้านบาท เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 64-66 ขึ้น 2-4% เพื่อสะท้อนการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้นและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ลดลงจากข้อตกลงใหม่
อัพเดทคุณภาพสินทรัพย์ล่าสุด
KBANK คาดเงินกู้ 3.1 หมื่นล้านบาทที่ออกจากโครงการบรรเทาหนี้ (6% ของ 5.16 แสนล้านบาท) จะชำระได้ในครึ่งปีหลัง 64 และเงินกู้ 1.1 หมื่นล้านบาทในภาคโรงแรมสนใจโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ผบห.เผยว่าอัตราผลตอบแทนเงินกู้ที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนสินเชื่อไปเป็นผลตอบแทนต่ำ/สินเชื่อองค์กรและสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีความเสี่ยงต่ำ (เพิ่มขึ้น 20-43% จากปี 61 ถึง 1Q64) ธนาคารจะเก็บ NPA ไว้โดยไม่ขาย ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสินเชื่อและ NPL สูงขึ้นในเวลาอันใกล้ แต่กำไรจะดีขึ้นในระยะยาว