CPN เข้าซื้อ SF ที่ราคา 12.00 บาท จำนวน 30.36% จาก MAJOR
และจะ tender offer ส่วนที่เหลือเพิ่มเติม

News Flash

  • CPN เข้าซื้อ SF ที่ราคา 12.00 บาท จำนวน 30.36% จาก MAJOR และจะ tender offer
    ส่วนที่เหลือเพิ่มเติม CPN เข้าซื้อหุ้น SF จาก MAJOR ทั้งหมดถืออยู่จำนวน 647,158,471 หุ้น
    (จำนวนหุ้นทั้งหมดของ SF จำนวน 2,134 พันล้านหุ้น) คิดเป็น 30.36% มูลค่า 7,766 ล้านบาท ภายใน
    วันที่ 30 ส.ค. 2021 และจะทำ Tender offer ที่ราคาเดียวกันที่ 12.00 บาท จากผู้ถือหุ้นรายย่อย
    ทั้งหมด ขณะที่อยู่ระหว่างการศึกษาและยังไม่ได้พิจารณาว่าจะ delisted หรือไม่ โดยมูลค่ารวมหากซื้อ
    ทั้งหมด 100% อยู่ที่ 25,584 ล้านบาท (ที่มา: SET)

Implication

  • มองเป็นบวกต่อ CPN และ SF แต่มองเป็นกลางต่อ MAJOR
    ( + ) CPN: เรามีมุมมองเป็นบวก เพราะหากพิจารณาในแง่ของ EV/พื้นที่เช่า พบว่า SF อยู่ที่ 7.5 หมื่นบาทต่อ
    ตารางเมตร ส่วน CPN อยู่ที่ 2.1แสนบาทต่อตารางเมตร
  • (Fig 1) แต่จะเปรียบเทียบโดยตรงไม่ได้เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของ SF อยู่รอบนอกซึ่งมูลค่าจะถูกกว่า แต่อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่า CPN มีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ได้ดี โดยดีลนี้ CPN จะใช้เงินกู้ในการเข้าซื้อ โดยหากซื้อทั้งหมด 100% จะทำให้ Net D/E เพิ่มขึ้นเป็น 0.77x จาก 0.46x

    ขณะที่ SF มีกำไรสุทธิก่อนรวมรายการตีมูลค่าใหม่ในปี 2020อยู่ที่ 398 ล้านบาท (กำไรสุทธิตามหน้างบอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท) จะส่งผลให้ CPN มี downside ต่อกำไรสุทธิ -1% (หลังหักต้นทุนในการกู้ยืมที่ 2%)

    (Fig 2) แต่อย่างไรก็ดี เราคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิก่อนรวมรายการตีมูลค่าใหม่ในปี 2021จะมี การเติบโตได้ดีซึ่งจะช่วยเพิ่ม upside ต่อ CPN ได้ในอนาคต ขณะที่ในเชิง synergy ที่จะเกิดขึ้นจากการได้สินทรัพย์ของ SF ซึ่งจะช่วยให้ CPN มีที่ดิน freehold ที่ใหญ่มากจาก Mega บางนา (SF ถือ 49%, อิคาโน่ จำกัด (เจ้าของแบรนด์ IKEA) 49% และบริษัท เอส.พี.เอส.โกลเบิ้ล เทรด จำกัด ถือ 2%) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ศักยภาพในการเติบโต และมีโอกาสได้ know-how จาก IKEA ในการพัฒนาที่ดินต่อไปได้ รวมถึงจะได้ประโยชน์จากที่ดินส่วนอื่นๆของ SF เพิ่มเติม

    โดยเราเชื่อว่า CPN จะต่อยอดธุรกิจจาก SF และทำให้เกิดผลกำไรที่มากกว่าเดิมได้ ขณะที่ทาง CPN กำลังจะมีการแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ช่วง 9.30 น. โดยเรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2021E อยู่ที่ 57.00 บาท อิง SOTP โดยแบ่งเป็นธุรกิจหลัก = 56.00 บาท อิง DCF (WACC 7.5%, Terminal Growth 2.5%) และธุรกิจ Residential = 1.00 บาท อิง Forward PER กลุ่มอสังหาฯที่ 8.0x)

    ( + ) SF: เราคาดว่าจะได้รับ sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น เพราะราคาซื้ออยู่สูงกว่าราคาตลาดที่ 3%

    ( 0 ) MAJOR: เรามีมุมมองเป็นกลางจากข่าวข้างต้น ปัจจุบัน MAJOR ถือหุ้น SF ที่647,158,471 หุ้น หรือ
    30.36% โดย MAJOR จะได้รับเงินจากการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ที่ 7,766 ล้านบาท และมีแผนนำเงินที่ได้ไปใช้ดังนี้
    1) ทยอยชำระคืนหนี้เงินกู้ตามสัญญาประมาณ 5,300 ล้านบาท
    2) ใช้ขยายธุรกิจ 265 ล้านบาท
    3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 2,200 ล้านบาท

    ทั้งนี้ MAJOR จะรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้นหลังหักภาษีที่ 2,824 ล้านบาท หรือ 3.16 บาทต่อหุ้น โดยราคาหุ้นของ MAJOR ตั ้งแต่วันที่ 1/6/2021-5/7/2021 ปรับตัวขึ้นมา 4.75 บาท ได้สะท้อนการเก็งกำไรข่าวการขายเงินลงทุนใน SF ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การขายเงินลงทุนใน SF จะทำให้ equity income ของ MAJOR ลดลง 380-418 ล้านบาทต่อปี (อิงกำไรของ SF ในปี 2021E-22E จาก consensus โดยทาง SF มีกำไรบางส่วนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน) แต่เรามองว่าจะช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายของ MAJOR ประมาณ 120 ล้านบาท/ปี

    ทั้งนี้ KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์ MAJOR (Bloomberg consensus 23.21 บาท Buy 12 / Hold 2/ Sell 2)

- Advertisement -