บล.เคทีบีเอสที :

Ekachai Medical Care
คาดรายได้ 2Q21E มีสัดส่วนจาก COVID-19 มากกว่า 50%
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.70 บาท จากเดิมที่ 7.00 บาท อิง DCF (WACC 9%, Terminal growth 3%) หรือเทียบเท่า 2021E PER ที่ 24x เรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นหลัง group conference call วานนี้ (17 มิ.ย.21) โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

1) ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2021E โต +20% YoY และคาดธุรกิจ IVF กลับมาฟื้นตัวใน 4Q21E ตามนโยบายการเปิดประเทศของรัฐ และมีศักยภาพรองรับนโยบายลูกคนที่ 3 ของประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจ IVF ในอนาคต และ
2) ปัจจุบันบริษัทมีผู้เข้ารับการตรวจคัดกรอง COVID-19 เฉลี่ยราว 150 ราย/วัน และมีเตียงรองรับรักษาผู้ป่วย COVID-19 ราว 120 เตียง (ปัจจุบันมี utilization rate 85%)

ทั้งนี้ปรับกำไรสุทธิปี 2021E/22E เพิ่มขึ้น +69%/+18% เป็น 194 ล้านบาท (+169% YoY) และเป็น 177 ล้านบาท (-9% YoY) จากรายได้ COVID-19 ที่ส่งผลยาวนานกว่าที่เราคาด ทำให้เราปรับรายได้ IPD/OPD ขึ้น +38%/+33%

ขณะที่ 2Q21E จะมีรายได้จาก COVID-19 สูงถึง 165 ล้านบาท และคาดมีจำนวนผู้เข้าตรวจคัดกรอง COVID-19 ณ 2Q21E ที่ 15,000 ราย โดยมีรายรับจากการตรวจคัดกรองที่ 3,000 บาทต่อราย อย่างไรก็ตามเรายังคงสมมติฐานลูกค้า IVF จะทยอยฟื้นตัวในช่วง 4Q21E และจะเร่งตัวเพิ่มขึ้นในปี 2022E โดยมีนโยบายลูกคนที่ 3 ของประเทศจีนเป็นปัจจัยหนุน

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นและ outperformed SET +13% ในช่วง 3 เดือน ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการตลาดคาดหวังการเปิดประเทศได้ใน 4Q21E และการสนับสนุนการมีลูกของประเทจีน ปัจจุบันเทรดที่ 2021E PER = 21x (-1.5SD below 5-yr average PER) และต่ำกว่า peer เทรดที่ 2021E PER = 35x โดย key catalysts คือ ลูกค้า IVF จากประเทศจีนจากนโยบายลูกคนที่ 3

Event: Company update
คาดรายได้ 2Q21E มีสัดส่วนจาก COVID-19 มากกว่า 50% เรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นหลังจากจัดประชุม group conference call วานนี้ (17 มิ.ย.21) โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

1) ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2021E โต +20% YoY และคาดธุรกิจ IVF กลับมาฟื้นตัวใน 4Q21E ตามนโยบายการเปิดประเทศของรัฐ และมีศักยภาพรองรับนโยบายลูกคนที่ 3 ของประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจ IVF ในอนาคต

2) ปัจจุบันบริษัทมีผู้เข้ารับการตรวจคัดกรอง COVID-19 เฉลี่ยราว 150 ราย/วัน และมีเตียงรองรับรักษาผู้ป่วย COVID-19 ราว 120 เตียง (ปัจจุบันมี utilization rate 85%)

3) คาด 2Q21E ศูนย์กุมารเวช มีรายได้เติบโต QoQ จากความมั่นใจในการเข้าใช้บริการมากขึ้น และได้รับผลกระทบจากการเรียน online ค่อนข้างน้อย โดยส่วนใหญ่มาจากโรคอาหารเป็นพิษ ฯลฯ

4) บริษัทได้เปลี่ยน nursing house ที่คาดจะเปิดให้บริการใน 1Q22E เป็น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและรพ.เฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ ทำให้มีค่าใช้จ่ายการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 110 ล้านบาท จากเดิม 70 ล้านบาท

Implication
ปรับกำไรสุทธิปี 2021E/22E ขึ้น +69% / +18% เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2021E ขึ้น +69% เป็น 194 ล้านบาท (+169% YoY) จากเดิมที่ 115 ล้านบาท และกำไรสุทธิปี 2022E ปรับขึ้น +18% เป็น 177 ล้านบาท (-9% YoY) จากเดิมที่ 150 ล้านบาท

โดยกำไรที่ปรับขึ้นเยอะในปี 2021E เป็นผลจากการรวมรายได้ที่มาจาก COVID-19 ทั้งในส่วนของการตรวจคัดกรอง (OPD) และการเข้ารับการรักษา (IPD) ส่งผลให้ปรับรายได้ OPD ขึ้น +33% และ IPD +38% ขณะที่คาด 2Q21E คาดมีรายได้จาก COVID-19 คิดเป็นเงินราว 165 ล้านบาท (บนสมมติฐานมีผู้เข้ารักษา IPD COVID-19 เฉลี่ย 100 เตียง,

มีอัตราการหมุนเวียนเตียง 2 รอบต่อเดือน (14 วัน/รอบ) ใช้อัตราการรักษาเฉลี่ย 200,000 บาท/ครั้ง/14 วัน และคาดมีจำนวนผู้เข้าตรวจคัดกรอง COVID-19 ณ 2Q21E ที่ 15,000 ราย โดยมีรายรับจากการตรวจคัดกรองที่ 3,000 บาทต่อราย) อย่างไรก็ตามเรายังคงสมมติฐานลูกค้า IVF จะทยอยฟื้นตัวในช่วง 4Q21E และจะเร่งตัวเพิ่มขึ้นในปี 2022E โดยมีนโยบายลูกคนที่ 3 ของประเทศจีนเป็นปัจจัยหนุน

Valuation/Catalyst/Risk
เราแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 7.70 บาท อิงวิธี DCF (WACC = 9%, TG = 3%) ขณะที่ key catalysts คือ ลูกค้า IVF โดยเฉพาะจีนจะมีจำนวนเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นจากนโยบายลูกคนที่ 3 ของประเทศจีน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนธุรกิจ IVF

- Advertisement -