บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

สรุปประเด็นการลงทุน และมุมมองนักวิเคราะห์

โมเมนตัมของกำไรที่เติบโต 4 ไตรมาสติด หนุนราคาหุ้นปรับตัวถึง +100%YTD แต่เรายังเชื่อว่าความน่าสนใจของ SIS ไม่ได้ลดลง และเห็นโอกาสที่จะปรับตัวข้ึนได้ต่อปัจจัยบวกทั้ง

ระยะสั้น (3-6 เดือน) : แนวโน้มกำไร 2Q64 ที่ 195 ลบ. +2%QoQ ,+33%YoY ดีพอที่จะทำสถิติใหม่เป็นไตรมาสที่ห้า ตามอุปสงค์ที่ยังแกร่งท้ังคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน ที่ทยอยส่งมอบได้แต่ที่น่าสนใจ คือ เราเห็น Upside risk เพิ่มเติมหลังการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงกว่าคาดทำให้มาตรการ WFH ถูกยืดออกไป จะหนุนคำสั่งซื้อทั้งเก่า-ใหม่จะแข็งแกร่งไปจนถึงส้ินปีเป็นอย่างน้อย ปัจจัยข้างต้นอาจทำให้ตลาดทบทวนประมาณการอีกครั้งเช่นเดียวกับเราที่ปรับเป้ากำไรข้ึนอีก 12%

ระยะกลาง-ยาว (1-2 ปี ) : นอกจากกำไรที่ขยายตัวโครงสร้างธุรกิจของ SIS กำลังปลับเปลี่ยนไปในทางที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มงานระบบ/ลิขสิทธ์ิ ที่มีมลูค่าสูง (HVA) สัดส่วนกำลังเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 40% ซึ่งเราชอบกลยุทธ์ข้างต้นเพราะด้วยลักษณะรายได้ที่สม่ำเสมอจะลดความผันผวนของธุรกิจจัดจำหน่ายเดิม, อัตรากำไรขั้นต้นระดับสองหลักสูงกว่าค่าเฉลี่ยเดิม 6-7%

ความเสี่ยง: การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี,การชะลอตัวของอุปสงค์,การผิดชำระของลูกหน้ี

การประเมินมูลค่า

สอดคล้องกับแนวโน้มกำไรท่ีสูงกว่าคาดเดิม เรามองมูลค่าเหมาะสมของ SIS ปี 2564 เท่ากับ 45บ./หุ้น (จากเดิม 40 บ./หุ้น) โดยอิงวิธี P/E 20x เทียบกับการเติบโตกำไรเฉลี่ย CAGR = 26% ในสองปีข้างหน้าสะท้อน ด้วย PEG0.77x

ราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/E เพียง 16x และมีส่วนลด ถึง 50% เมื่อเทียบกับ SYNEX ที่ P/E 30x ในขณะ เปรียบเทียบด้วยฐานกำไร, อัตราเติบโต, ความสามารถในการทำกำไร (%NPM) ท่ีไม่แพ้กัน

ประมาณการของตลาดมีโอกาสปรับข้ึน

การระบาดในประเทศที่ยืดเยื้อข้ึนกว่าคาดนำมาสู่มาตรการ Lockdown รอบใหม่จะเป็นบวกต่อ SIS ที่อุปสงค์ สินค้าไอที (Work & Learn from home) จะเป็นที่ต้องการ, คำสั่งซื้อใหม่ และการส่งมอบงานโครงการต่างๆ จะยืดออกไปถึงปลายปีเป็นอย่างน้อยทำให้กำไรสุทธิยืนได้ใน 1H64 ก่อนท่ีจะกลับมาเติบโต QoQ ได้ใน 3Q- 4Q64 เราปรับกำไรปี 64-65 ขึ้นอีก 12% เป็น 803/950 ลบ.

คาดกำไร 2Q64 เท่ากับ 195ลบ.+2%QoQ,+33%YoY เป็นการทำสถิติใหม่ 5 ไตรมาสติดต่อกันมาจากรายได้ที่ยืนทรงตัวสูงเทียบ QoQ ที่ 7.5 พันลบ.+22%YoY อุปสงค์ทั้ง PC,N/B,Phone ทยอยส่งมอบมากเท่าท่ีผู้ผลิตจัดหาได้ ขณะสมาร์ทโฟนท่ีได้อุปสงค์ตามมาตรการรัฐหนุนโดยมีอัตรากำไรท่ีดียืนได้ใกล้ไตรมาสก่อน

โครงสร้างธุรกิจกำลังแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม

นอกเหนือจากกำไรที่เติบโต เราเห็นพัฒนาการที่ดีบนโครงสร้างธุรกิจท่ีกำลังเปลี่ยนไป ในส่วนสินค้า /บริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (Value added & Others) เช่น ลิขสิทธ์ิซอฟท์แวร์, Cyber security , บริการ Data center ซึ่ง รายได้ลักษณะความสม่ำเสมอ (recurring) ด้วยรูปแบบท่ีเป็นงานบริการระบบต่างจากธุรกิจจัดจำหน่ายเดิม

เรามองเป็นบวกในด้านลดความผันผวนของรายได้การขายธุรกิจค้าส่ง IT ท่ีอาจชะลอลงตามอุปสงค์และความสามารถการทำกำไรท่ีดีข้ึนด้วยมาร์จินระดับสองหลัก (ปัจจุบัน GPM เฉลี่ย 6.6%) โดยปัจจุบันธุรกิจข้างต้นมีสัดส่วนบนกำไรขั้นต้นจาก 30% ในปี 2560 มีแนวโน้มเพิ่มข้ึนอาจสูงถึง 40-50% ในสองปีข้างหน้า

 

- Advertisement -