ดีแทคเผยผลประกอบการไตรมาส 2/24 มุ่งบริการลูกค้าให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2/64 จำนวนผู้ใช้บริการและรายได้จากการบริการเพิ่มขึ้นอีกไตรมาส ท่ามกลางความกังวลต่อการระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 3 ทั้งนี้ ด้วยกลยุทธ์ของบริษัทในการมุ่งขยายตลาดลูกค้าคนไทยในประเทศ และการลงทุนขยายเครือข่ายในย่านความถี่ต่ำอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การบริหารประสิทธิภาพต้นทุน ยังช่วยผลักดันการเติบโตของผลกำไรได้ดี
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “การให้บริการเครือข่ายความเร็วสูงสำหรับผู้ใช้บริการทุกคน ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เราให้ความสำคัญสูงสุด ความคืบหน้าในการขยายเครือข่ายคลื่น 700 MHz ซึ่งมีสถานีฐานมากกว่า 9,000 แห่งในเมืองและพื้นที่ห่างไกล ช่วยให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีขึ้น ปัจจุบันคลื่นความถี่ต่ำครอบคลุมกว่า 80% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ความครอบคลุมในอาคารโดยรวมดีขึ้น 3% และข้อร้องเรียนของลูกค้าลดลง 5% เรายังมีการเปิดให้บริการ 5G ในอีก 3 จังหวัด เพิ่มเติมจาก 6 จังหวัดในการเปิดตัวครั้งก่อน
แนวทางการให้บริการที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ช่วยกระตุ้นผลการดำเนินงานในกลุ่มลูกค้ารายย่อยและกลุ่มลูกค้าธุรกิจ โดย dtac business ที่ได้เปิดตัวแบรนด์ครั้งใหม่ในปีที่ผ่านมา แสดงผลการเติบโตในส่วนของจํานวนลูกค้าธุรกิจรายใหม่ และรายได้จากโซลูชันธุรกิจประเภทต่างๆ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อัตราร้อยละที่เป็นเลขสองหลัก เป้าหมายของเราคือการช่วยเหลือ SMEs และธุรกิจไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ดีแทคได้ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมที่สำคัญ ในการพัฒนาบริการและโซลูชันใหม่ๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้บริโภคสามารถปรับตัวและยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในยุคสมัยใหม่ ขณะที่การเดินหน้ายกระดับประสิทธิภาพของเรายังจะช่วยให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย”
ณ สิ้นไตรมาส 2/64 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ที่ 19.2 ล้านราย เพิ่มขึ้น 164,000 รายจากไตรมาสก่อน จากการมุ่งขยายตลาดลูกค้าคนไทยในประเทศอย่างต่อเนื่อง และการลงทุนในเครือข่ายย่านความถี่ต่ำของบริษัท รายได้ค่าบริการไม่รวม IC เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 จากไตรมาสที่แล้ว และลดลงร้อยละ 2.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA สำหรับ Q2/64 มีมูลค่า 8,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 จากไตรมาสที่แล้ว และลดลงร้อยละ 0.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA margin (normalized) อยู่ที่ร้อยละ 49.0 ในไตรมาส 2/64 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 43.9 ในไตรมาสที่ 1/64 กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/64 คิดเป็น 1,531 ล้านบาท
นายนกุล เซห์กัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “การเพิ่มขึ้นของลูกค้าทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่มุ่งขยายตลาดลูกค้าคนไทย เราประสบความสำเร็จในการเติบโตของรายได้จากบริการ 2 ไตรมาสติดต่อกัน และในขณะเดียวกันก็ดำเนินการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพได้ต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นที่การลดต้นทุนเชิงโครงสร้าง เป็นผลให้ EBITDA ของเรายังคงอยู่ในระดับที่ดี ในขณะที่กำไรสุทธิยังคงเติบโต จากไตรมาสที่แล้ว ณ ไตรมาสที่ 2/64 เรายังคงเดินหน้าการลงทุนด้านเครือข่าย ด้วยเงินลงทุนรวมทั้งปีจนถึงปัจจุบันประมาณ 7.0 พันล้านบาท”
ดีแทคคงแนวโน้มสำหรับปี 2564 ได้แก่ ด้านรายได้จากบริการ ไม่รวม IC ที่คงที่จนถึงลดลงในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ EBITDA ที่คงที่จนถึงเติบโตที่อัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ และแนวโน้มด้านค่าใช้จ่ายลงทุนที่ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท
ตัวเลขสำคัญทางการเงินในไตรมาส 2/64 (หลัง TFRS 15 และ 16)
รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC 14,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 2.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
EBITDA อยู่ที่ 8,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 0.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
อัตรากำไร EBITDA (normalized) อยู่ที่ร้อยละ 49.0
กำไรสุทธิ 1,531 ล้านบาท