หนุนงาน EPC พุ่งแตะ 1 หมื่นลบ./ ส่งซิก Q2/64 ผลงานติดเทอร์โบ
โชว์สตอรี่ลุยตลาดกัญชงเต็มตัว-รุกหนักพลังงานทดแทน
บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) มือขึ้น บริษัทย่อย ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล “FEC” คว้างาน รับเหมาก่อสร้างสถานีไฟฟ้า -เคเบิลใต้ดิน จากกฟภ.มูลค่า 447.87 ล้านบาท หนุนงาน EPC ในมือพุ่งทะลุ 1 หมื่นล้านบาท แย้มไตรมาส 2/2564 ทำผลงานโตไม่แพ้ช่วงเดียวกันของปีก่อน อานิสงส์ธุรกิจพลังงานทดแทน-งาน EPC หนุนเต็มสูบ “ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” ระบุต่อจากนี้จะได้เห็นกลุ่ม GUNKUL เติบโตอย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น จากการลุยธุรกิจพืชเศรษฐกิจ กัญชง-กัญชา เพิ่มช่องทางสร้างรายได้อย่างยั่งยืน แถมรุกหนักธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ตอกย้ำปั๊มรายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 20%
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้พิจารณาตกลงให้ บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) ซึ่งถือหุ้นโดย บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(GPD) บริษัทย่อยของ GUNKUL ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง สถานีไฟฟ้าท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ตามโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 3 แผนที่ 1 และโครงการงานจ้างก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่ กฟก.1 (จังหวัดนครนายก,จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดอ่างทอง)
นอกจากนี้ยังมีโครงการงานก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่ กฟฉ.2 (จังหวัดกาฬสินธุ์,จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดอำนาจเจริญ) รวม 3 สัญญามูลค่าทั้งสิ้น 447,874,000 บาท ซึ่งการรับงานในครั้งนี้ ช่วยสนับสนุนงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ในมือ (Backlog) พุ่งแตะ 10,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อถึง แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 ของกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ได้จำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วกว่า 650 เมกะวัตต์ และเชื่อว่าผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 3-4/2564 โดยในครึ่งปีหลังบริษัทฯ เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกกว่า 20,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้งานเพิ่มอีก 15-20% ส่งผลทำให้รายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ตำกว่า 20%
สำหรับความคืบหน้าในการลงทุนในธุรกิจกัญชง-กัญชา บริษัทฯ ได้ตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,900 ล้านบาท แบ่งลงทุนปี 2564-2566 เป็นงบลงทุนโรงเรือน 1,500 ล้านบาท,ลงทุนโรงสกัด 300 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 100 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตในการปลูกกัญชา-กัญชงกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดว่าภายในเดือนกรกฎาคมนี้จะทราบผลการอนุมัติ
ส่วนโรงงานสกัดสารกัญชา-กัญชง (CBD) คาดว่าจะดำเนินการลงทุนในไตรมาส 1/2565 โดยกำลังการผลิตช่วงแรกจะอยู่ที่ 100 กิโลกรัมต่อวัน และตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1,100 กิโลกรัมต่อวันในครึ่งหลังปี 2565 ซึ่งในปี 2565 บริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาทต่อปี และปี 2566 รับรู้รายได้เต็มปี
นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมเข้าลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์ม และวินด์ฟาร์มโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในต่างประเทศจะเน้นลงทุนในเวียดนาม โดยได้มีการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงงานลมรวม 400-500 เมกะวัตต์ และในประเทศไทยได้ศึกษาโครงการโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลมรวม 100 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ปี 2564 มีกำลังการผลิตเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 100-150 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้ามีโรงไฟฟ้าที่ COD ทั้งหมดในปี 2566 ที่ 1,000 เมกะวัตต์