พร้อมเดินเครื่องจักรโรงงานใหม่สุราษฎร์ธานี 3
บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT เดินหน้าขยายกำลังการผลิตถุงมือยางตามต่อเนื่อง วางเป้าหมายเปิดโรงงาน 4 แห่งภายในปีนี้ ดีเดย์เดินเครื่องจักรโรงงานใหม่สุราษฎร์ธานี 3 แล้ว เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อผลิตถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รองรับดีมานด์จากทั่วโลกที่มีอย่างต่อเนื่อง หลังเปิดโรงงานสุราษฎร์ธานี 2 ไปแล้วก่อนหน้านี้ และเตรียมเปิดโรงงานในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และจังหวัดตรังในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมวางแผนระยะยาวเพิ่มกำลังการผลิตแตะ 100,000 ล้านชิ้นภายในปี 2569
นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายกำลังการผลิตถุงมือยางตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อรองรับความต้องการใช้สินค้าและคำสั่งซื้อจากทั่วโลกที่มีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรค COVID-19 ในหลายประเทศและการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส โดยแผนงานในปี 2564 จะเปิดโรงงานใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง ใช้งบลงทุนรวมกว่า 11,000 ล้านบาท ได้แก่ โรงงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 แห่ง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา 1 แห่ง และจังหวัดตรัง 1 แห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินเครื่องจักรโรงงานสุราษฎร์ธานี 2 ไปแล้ว และล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 บริษัทฯ ได้เดินเครื่องจักรโรงงาน
สุราษฎร์ธานี 3 เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับโรงงานสุราษฎร์ธานี 3 จะผลิตถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ (ถุงมือยางสังเคราะห์) มีกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 4,000 ล้านชิ้นต่อปี เพื่อรองรับการส่งออกและจำหน่ายในประเทศ โดยโรงงานดังกล่าวใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่สามารถผลิตสินค้าและปรับไลน์การผลิตได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากภาครัฐเป็นระยะเวลา 5 ปี
ทั้งนี้ จากแผนเปิดโรงงานใหม่ทั้งหมด 4 แห่งภายในปีนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 35,800 ล้านชิ้นต่อปี และวางแผนขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตเป็นประมาณ 100,000 ล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 2569 เพื่อสร้างการเติบโตและเพิ่มส่วนในตลาดถุงมือยางทั่วโลก
“ปัจจุบันเรามีความพร้อมขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นบ้างจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานและตรวจพบพนักงานติด COVID-19 อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหาเป็นที่เรียบร้อยพร้อมฉีดวัคซีนทางเลือกแก่พนักงานครบทุกคน และกำลังเร่งเดินหน้าการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรเพื่อเปิดโรงงานอีก 2 แห่งในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา รวมถึงจังหวัดตรังในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ตามแผนที่วางไว้” นางสาวจริญญา กล่าว