บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

MK Restaurant (M) ภาพการฟื้นตัวถูกเลื่อนออกไป

TP Revision

ประเด็นการลงทุน

คาด 2Q64 บริษัทรายงานขาดทุน -93 ลบ. (+62%YoY, -204%QoQ) จากผลกระทบโควิดละลอกที่ 3 กดดันยอดขายหดตัว QoQ, ต้องพึ่งช่องทางขาย Delivery มากขึ้น ซึ่งมี GMP ต่ำ และมีต้นทุนส่วนใหญ่เป็น Fixed Cost ลดได้จำกัด ไม่เพียงพอต่อยอดที่หายไป กดดันผลประกอบการให้พลิกมาขาดทุน ขณะแนวโน้ม 3Q64 คาดยังชะลอตัวต่อ จากมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มข้นขึ้น QoQ อย่างไรก็ดี บริษัทมีสภาพคล่องทนต่อการล็อกดาวน์ได้อีกอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งเพียงพอต่อการฝ่าวิกฤตและรอรับ Pent-up Demand ที่คาดมีโอกาสกลับมาช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้าได้ โดยเราปรับประมาณการกำไรปี 64-65 ลง 68% และ 9% ตามลำดับ และลดราคาเป้าหมายลงจาก 61 บาท เป็น 58 บาท ด้วยวิธี DCF ยังคงคำแะนำซื้อลงทุน

คาด 2Q64 ผลประกอบการพลิกมาขาดทุน

โดยคาดบริษัทมียอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ที่ +40%YoY จากฐานที่ต่ำ Full lockdown ปีก่อนแต่ -10%QoQ จากสถานการณ์โควิดระลอกที่ 3 กดดันกำลังซื้อและบริษัทต้องพึ่งช่องทางขายผ่าน Delivery มากขึ้น ซึ่งได้มาร์จิ้นที่ต่ำกว่ากดดัน GPM หดตัวเหลือ 62.5% เทียบกับ 64.2% ใน 1Q64 ขณะต้นทุนส่วนใหญ่คือ Fixed cost ลดลงต่อได้จำกัด และส่วนหนึ่งบริษัทได้ทำการ Lean ตัวเองในช่วงโควิดระลอก 1-2 มามากแล้ว อีกทั้งยังได้รับส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ลดลงจาก 50% ในช่วง Full lockdown เหลือเพียง 20% ใน 2Q64 ทำให้เราเห็น ภาพยอดขายลดลงมากกว่าต้นทนุและผลประกอบการพลิกมาขาดทุน

แนวโน้ม 3Q64 คาดยังชะลอตัวต่อ

จากสถานการณ์โควิดและการล็อกดาวน์ของภาครัฐ คาดยังกดดันกำลังซื้อให้อ่อนแอ QoQ โดยมาตรการล่าสุดของภาครัฐคือห้ามทานอาหารในร้านใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มเทียบกับ 6 จังหวัดเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑลในระยะเวลา 14 วันช่วง 2Q64 ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนยอดขายของบริษัทกว่า 60% และด้วยสถานการณ์ปัจจุบันคาดยังมีโอกาสเห็นการขยายพื้นที่ล็อคดาวน์ไปพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มเติม  โดยคาดจะเห็นบริษัทกลับมาใช้มาตรการ Leave without pay อีกครั้งในไตรมาสนี้ ซึ่งหากอิงจาก 2Q64 จะช่วยลด Fixed cost ได้ราว 10-15% แต่คาดยังไม่สามารถชดเชยกับยอดขายที่จะหายไปได้

Valuation

คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงจาก 61 บาท สู่ 58 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 9%,G.2%) จากการปรับประมาณการกำไรปี 64 และ 65 ลง 68% และ 9% ตามลำดับ ด้วยสถานการณ์โควิดที่ยืดเยอะมากกว่าคาดทำให้คาดจะไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 1H64 ในปีนี้ แต่ยังมองบริษัทสามารถสาวิกฤตครั้งนี้ไปได้ไม่ยากจากสภาพคล่องในมือกว่า 7.7 พันลบ.เทียบกับ Cash burn ตอนเกิด Full lockdown ท่ี 500 ลบ.ต่อเดือน ซึ่งเพียงพอต่อการผ่านวิกฤตและรอรับกับ Pent-up demand ที่คาดจะกลับมาช่วงปลายปีนี้-ต้นปีหน้าได้

BUY

Share Price: THB 49.50

12m Price Target: THB 58.00 (+17%)

Previous Price Target: THB 61.00

- Advertisement -