บล.ฟิลลิป:

ธนาคารกรุงเทพ – BBL ยังมีธุรกิจต่างประเทศช่วยหนุน

ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่ยังมีธุรกิจต่างประเทศช่วยหนุน

ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ค่อนข้างมาก และทาง BBL นั้นได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของ GDP ลงมาเหลือ 0% โดยธุรกิจท่องเท่ียวยังเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ฐานที่ต่ำอยู่แล้วยังไม่น่าจะทำให้ GDP ถึงขั้นติดลบ แต่ด้วยความเชี่ยวชาญในเรื่องธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจต่างประเทศ ยัง ทำให้สินเช่ือของ BBL นั้นยังเติบโตได้ 2.2% ytd โดยสินเช่ือท่ีเติบโตขึ้นส่วนใหญ่ก็มาจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อต่างประเทศ ในขณะที่สินเช่ือรายย่อยนั้นหดตัวลง

พยายามให้ความช่วยเหลือลูกค้าให้มากท่ีสุด

ลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือของ BBLอยู่ในระดับเดียวกับอุตสาหกรรมที่ 13-14% ของสินเชื่อทั้งหมด โดยทาง BBL จะให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มนี้ รวมถึงลูกค้าท่ีได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ให้ได้มากที่สุด ทั้งผ่านมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ที่ออกโดยรัฐบาล และธปท. ผ่าน Soft loan นอกจากนี้ทาง BBL เองก็ได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือลูกค้าภายในขึ้นเองด้วย ทั้งสินเชื่อวงเงินหมุนเวียน สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ และการปรับเงื่อนไขการชำระ รวมไปถึงการปรับโครงสร้างหนี้

ยังไม่มีการปรับเป้าหมายทางการเงิน

BBL ยังไม่มีการปรับเป้าหมายทางการเงินในปี 64 โดยยังคงเป้าทุกอย่างไว้เหมือนเดิม เป้าการปล่อยสินเชื่อท่ี 3–4% จากสินเชื่อท่ีปล่อยได้แล้ว ณ สิ้น 2Q64 ที่ 2.2%ytd NPL ให้อยู่ประมาณ 4.5% จากขณะนี้อยู่ที่ 3.7%, NIM 2.1% จาก 2.1% และการตั้งสำรอง 22 พันลบ.โดยทางฝ่ายมองว่าเป้าทางการเงินของ BBL ท่ีตั้งไว้จะสามารถเป็นไปได้ ยกเว้นการตั้งสำรอง เนื่องจาก 1H64 BBL ได้มีการตั้งสำรองไปแล้วถึง 16 พันลบ. และถึงแม้ว่า BBL จะมีสัดส่วนสำรองต่อ NPL ที่สูงมากถึง 190% สูงเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียง TISCO ธนาคารเดียวก็ตาม แต่ผลกระทบจาก COVID-19 น่าจะทำให้ BBL จำเป็นที่จะต้องตั้งสำรองสงูกว่าท่ีตั้งเป้าไว้ โดยทางฝ่ายคาดว่า BBL จะมีการตั้งสำรองในปีนี้ที่ 29 พันลบ.

คงประมาณการกำไร และราคาพื้นฐานท่ี 124 บาท 

ยังคงประมาณการกำไรปี 64 ของ BBL ไว้ท่ี 27.9 พันลบ.โดยทางฝ่ายได้มีการปรับลดประมาณการกำไรไปก่อนหน้านี้จากสำรองท่ีคาดว่าจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามประมาณการกำไรท่ีปรับใหม่นี้ยังเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 62.6%y-y ยังคงราคาพื้นฐานไว้ที่ 124 บาท ยังมีส่วนต่างอยู่พอสมควรและมองว่า BBL เป็นธนาคารท่ีรับความเสี่ยงได้มากจากสัดส่วนสำรองต่อ NPL ที่สูง และข้อได้เปรียบในเรื่องสินเชื่อขนาดใหญ่ และสินเช่ือต่างประเทศ ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -