รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Today’s Strategy
จับตาประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯ
เมื่อวานนี้ SET INDEX เริ่มยืนทรงตัว และมีการฟื้นตัวทางเทคนิคเล็กน้อยตามที่เราประเมิน แต่ Sentiment ตลาดหุ้นไทย วันนี้ มีแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ คาดทิศทางวันนี้ เป็นการแกว่งตัวออกข้างจนถึงพักตัว กรอบ 1,515-1,530 จุด
ประเด็นการคลังของสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ต้องจับตาในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า หลังจากเมื่อวานนี้ สิ้นสุด นโยบายพักการใช้เพดานหนี้ชั่วคราวเป็นเวลา 2 ปี (ตั้งแต่ 31 ก.ค.2562) ส่งผลให้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จำเป็นต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน เพื่อให้รัฐบาลสามารถจ่ายคืนหนี้พันธบัตรได้ประมาณ 2-3 เดือน โดยระหว่างนี้ สภาคองเกรสจะต้องขยับเพดานหนีขึ้นหรือยับยั้งการใช้เพดานหนี้ชั่วคราวเหมือนเมื่อ 2 ปีก่อน หากไม่ทันเวลา จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่รัฐบาลไม่สามารถจ่ายเงินสวัสดิการบางประเภทให้กับประชาชน รวมถึง การเลื่อนจ่ายเงินเดือนข้าราชการ กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อฐานะการคลังของประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมหรือ Bond Yield ในตลาดขยับขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ได้ตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าว เพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดระดับลงมาปิดที่ 1.18%
ราคาน้ำมันดิบทั้ง Brent และ NYMEX ปรับตัวลดลงราว 2-3% เนื่องจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เริ่มส่งสัญญาณชะลอความร้อนแรงลง ทั้งดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิตของจีน และดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด ประกอบกับ น้ำมันดิบเป็นสินค้า โภคภัณฑ์ที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงมากตั้งแต่ต้นปีนี้ราว 40-50% ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมา

Yuanta Picks
เก็งกำไร STA
ราคาปิด 38.25 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 40.00 บาท
ราคาหุ้นมี Sentiment บวก หลังสมาคมประเทศผู้ผลิตยาง ได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และมาเลเซียคาดว่าอาจเกิดภาวะซัพพลายตึงตัวในตลาดยาง หลังประเทศสมาชิกประสบปัญหา COVID ส่งผลให้การผลิตยางต่ำกว่าคาด
เราคาดกำไรปกติ 2Q64 ที่ 4.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น +443% YoY ขณะที่เงินปันผล 2Q64 คาดหุ้นละ 0.90 บาท ให้ Yield 2.4% นอกจากนั้น สัดส่วนรายได้มาจากการส่งออกสูงถึง 90% จึงคาดว่า 3Q64 จะได้ประโยชน์เต็มที่จากเงินบาทเทียบ USD ที่อ่อนค่าเตรียมขึ้นทดสอบ 33.00 บาท/USD

สะสม ORI
ราคาปิด 8.80 บาท
ราคาเหมาะสม 10.50 บาท
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 868 ลบ. เติบโต +23% YoY และ +5% QoQ แม้โครงการแนวสูงจะได้รับผลกระทบจาก COVID แต่สัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้นมาก, กำไรพิเศษจาก Share Premium และรายได้ค่าบริหารโครงการเป็นปัจจัยช่วยหนุนกำไร
จุดเด่นของ ORI คือ 1)ธุรกิจอสังหาฯกระจายตัวได้ดีทั้งแนวราบ, แนวสูง และรายได้ประจำ 2)ต่อยอดธุรกิจเข้าสู่ New S-Curve เช่น Logistic, Healthcare, AMC, Alternative Energy 3)มีพันธมิตรต่างชาติแข็งแกร่ง เช่น Nomura, Tokyu Land 4)การ Spin Off บริษัทลูก เช่น Britania, Primo เข้า IPO ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER2564 ราว 7.6 เท่า ให้ Yield 6%

เก็งกำไร TASCO
ราคาปิด 19.20 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 20.00 บาท
การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ Brent และ Nymex ราว -3% เป็น Sentiment บวกต่อบริษัท เนื่องจากน้ำมันเป็นต้นทุนในการผลิต และส่งผลให้ Spread ยางมะตอยมีโอกาสปรับตัวขึ้น
แนวโน้มกำไรปกติ 2Q64 คาดเติบโต QoQ ขณะที่เชิงเทคนิคดูน่าสนใจ แนวต้าน 20.00 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 18.50 บาท

เก็งกำไร GPSC
ราคาปิด 77.75 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 80.00 บาท
ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 80.00 บาท แนวรับ 77.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 76.00 บาท
แนวโน้มกำไร 2Q64 คาดจะออกมาดีจากแรงหนุนของกำไรจากโครงการไซยะบุรี และเรามีมุมมองบวกต่อการเติบโตในระยะยาว ทั้งธุรกิจ EV battery และการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ หลังเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมในไต้หวันสัดส่วน 25% มูลค่าเงินลงทุน US$500 ล้าน

HOT Topics
1. ตัวเลข PMI เดือน ก.ค. ทั่วโลกส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาด กดดันราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวลง
2. Update ประเด็น Debt Ceiling ของสหรัฐฯ
3. เงินบาทอ่อนค่าเตรียมทดสอบ 33 บาท/USD และสมาคมประเทศผู้ผลิตยางคาดว่า COVID อาจกระทบ Supply ส่งผลให้ราคายางปรับตัวขึ้น เป็นบวกกับ STA, NER
4. บทวิเคราะห์ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน, กลุ่มค้าปลีก, ORI, THCOM, BAM, AJ, EPG, TU, GFPT

Market Recap
SET Index
วานนี้เคลื่อนไหวลบสลับบวก โดยปิดตลาดที่ 1,525.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.19 จุด (+0.21%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.6 หมื่นล้านบาท
หุ้น Most Active CPALL (-2.54%), AMR (+0.72%), PTT (+0.72%), CPF (+1.92%), TOP (+1.70%)

กระแสเงินทุน
หุ้น นักลงทุนสถาบันภายในประเทศซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 มูลค่า 785 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ มูลค่า 216 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนสถาบันภายในประเทศมีสถานะขายสุทธิสะสม 4.4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ มูลค่า 870 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ มูลค่า 707 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิสะสม 9.2 หมื่นล้านบาท
SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ ราว 203 สัญญา โดย QTD มียอด Long สุทธิสะสมราว 2.2 พันสัญญา
ตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 มูลค่า 2.6 พันล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ 258 ล้านบาท

Factors
(-) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,838.16 จุด ลดลง 97.31 จุด หรือ -0.28% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาและการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
(-) สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 59.5 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.9 หลังจากแตะ 60.6 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่
(0) คลังสั่งเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้ดอกเบี้ย ผ่อนปรนธุรกิจสายการบิน ภายใต้เงื่อนไขคงจ้างงาน ด้าน “รักษ์” เผย 3 สายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย ไทยสมายล์ บางกอกแอร์เวย์ส” ได้รับความช่วยเหลือแล้วกว่า 2 พันล้านบาท ส่วน “เวียตเจ็ท” กำลังพิจารณา ฟาก “7 แอร์ไลน์” เผยยังรอหนังสือ “ตอบชัด” จากคลัง-เอ็กซิมแบงก์
(+) ADVANC ประกาศงบวันนี้ (3 ส.ค.) โบรกคาดจะมีกำไรอยู่ที่ราว 6.8-6.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการลดต้นทุนที่ดีขึ้น แนวโน้มครึ่งปีหลังเติบโตจากบริการมือถือที่ดี และการเป็นผู้นำ 5G หนุนกำไรทั้งปีนี้ยังทรงตัว และจะกลับมาเติบโตเด่นในปีหน้า
(+) GLOBAL โชว์ผลงานไตรมาส 2/2564 ดีเกินคาด โบรกแห่ปรับประมาณการกำไรขึ้น มองครึ่งปีหลังดีต่อเนื่องและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปี 2565 ขณะที่ยังมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นปีละ 5-6 สาขา ภาพรวมกำไรสุทธิปี 2564 จะโต 69% จากปีก่อน ส่วนการล็อกดาวน์เพิ่มเติมในเดือนสิงหาคม คาดว่าจะมีการปิดสาขาเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังสามารถขายหลังร้านและทางออนไลน์ได้ ชูเด่นกลุ่ม Home Improvement
(+) SNNP รับอานิสงส์คนแห่ตุนของกินช่วงอยู่บ้าน หนุนออเดอร์กระฉูด พร้อมจ่อคลอดแคมเปญ WFH กระตุ้นยอดขายเพิ่ม แถมปักหมุดปี 2564 รายได้เติบโตดีกว่าปีก่อน ชี้พอร์ตลูกค้าขยายตัวต่อเนื่อง
(+) ORI จับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น “โตคิว แลนด์ เอเชีย” ร่วมทุนโครงการมิกซ์ยูส “วัน พญาไท” มูลค่า REIT กว่า 3,600 ล้านบาท เล็งขยายฐานรองรับดีมานด์ลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดเปิดให้บริการปลายปี 2566
(0) Block Trade ที่สถานะคงค้างปรับตัวเพิ่มขึ้นและส่งสัญญาณบวกคือ TTA, TU, GFPT ส่วนตัวที่สถานะคงค้างเพิ่มขึ้นและส่งสัญญาณลบคือ MEGA, OSP

- Advertisement -