Daily Focus

ตลาดหุ้นวานน้ี : SET Index ปรับตัวในแดนลบช่วงครึ่งเช้าก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีแรงซื้อเข้ามาหนุน โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าและไฟแนนซ์ หนุนดัชนีพลิกมาเป็นบวกได้ 5.35 จุด ณ สิ้นวัน แม้ กนง.จะคงดอกเบี้ย และปรับลดคาดการณ์ GDP ลง แรงซื้อยังคงอยู่ ฝั่งสถาบันในประเทศ 2.2 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิหนาแน่น 1.9 พันลบ. (แต่ Long Index Futures 6.4 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดย Upside ระยะสั้น คาดยังจำกัดบริเวณ 1,550-1,555 จุด ขณะที่แนวรับสำคัญยังอยู่ที่ 1,530 จุด โดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยหนุน หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค. ของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาดมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ FED ระบุว่า FED อยู่ในเส้นทางของการเดินหน้าทยอยลด QE ซึ่งจะชัดเจนในช่วงปลายปี กดดันให้ Dollar Index เริ่มแข็งค่า และ Bond Yield ขยับขึ้นนอกจากน้ี ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ำกว่า US$70 ต่อบาร์เรลอีกครั้ง กดดันกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศยังกดดันเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียนใน 3Q21 เป็นอย่างน้อย กลยทุธ์จึงยังเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 2Q21-3Q21 แข็งแกร่ง และไม่ถูกกระทบจากการ Lockdown ได้แก่ กลุ่มการแพทย์ กลุ่มขนส่ง (เรือ) กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มส่งออกอย่างอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ส่วนจังหวะอ่อนตัวลงขาแนวรับ 1,500 จุด ยังมองเป็นจังหวะในการแบ่งไม้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวช่วงปลายปีต่อเนื่องปีหน้า

กลยุทธ์: เก็งกำไรเป็นรายตัวที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว และงบ 2Q21 โดดเด่น // สะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มบริเวณ 1,500+- จุด

หุ้นเด่นเดือนส.ค.: BCPG, EKH, ORI, SONIC, TTA

หุ้นเด่นวันนี้: ORI

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.10 บาท
  • คาดกำไร 2Q21 แข็งแกร่ง +3%Q-Q, +20%Y-Y ท่ามกลางสถานการณร์ะบาดของ COVID-19 ระลอก 3 โดยได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจาก JV และรายได้ค่าบริหารโครงการที่ดีขึ้น
  • โมเมนตัม 2H21 ยังสดใส คาดเรร่งตัวทั้ง H-H และ Y-Y จากแผนการโอนคอนโดสร้างเสร็จใหม่ 4 แห่ง ระยะยาวรองรับด้วยการ Partner ทำ JV เพื่อ Diversify และต่อยอดจากธุรกิจอสังหาฯ ปัจจุบันเทรด PE เพียง 7.8 เท่า และให้ Dividend Yield 6%
  • แนวรับ 9 บาท แนวต้าน 9.50-9.70//10 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลเข้าภูมิภาคอีก US$1,518 ล้าน และยังนำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$856 ล้าน และ US$657 ล้านตามลำดับ ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าทุกประเทศ ยกเว้นไทยที่ไหลออก US$58 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดชะลอการไหลเข้าหลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯเดือน ก.ค. ต่ำกว่าคาด และเจ้าหน้าท่ี FED ระบุว่า FED อยู่มนเส้นทางในการลด QE ในช่วงปลายปี

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) หุ้นที่คาดกำไร 2Q21 โดดเด่น KCE HANA SMT DOHOME EPG SONIC LEO EKH CHG BCH BDMS NER JWD JR TTA IIG TU SAPPE NSL TACC SC SPALI

(-) กลุ่มบันเทิงการระบาดของ COVID-19 และการ Lockdown กระทบโดยตรงต่อกลุ่มสื่อนอกบ้านกดดันรายได้โฆษณาถึง 3Q21 เป็นอย่างน้อย ขณะที่กลุ่มทีวีคาดยังพอจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากการอยู่บ้าน และคาดมีทิศทางผลการดำเนินงานที่ดีกว่า อย่างไรก็ตามมีเพียง BEC ที่คาดว่าจะมีกำไรโต Q-Q ระยะสั้นชอบ BEC และ WORK ที่สุด (Source: FSSIA)

(0) ผลการประชุมกนง. คงดอกเบี้ย 0.5% ด้วยคะแนน 4 ต่อ 2 เสียงโดยเสียงส่วนน้อยเสนอให้ลดเหลือ 0.25% เพื่อพยุงเศรษฐกิจและรองรับแนวโน้มเสี่ยงสูงและปรับ GDP ปีนี้ลงจาก +1.8% เหลือ +0.7% แม้จะยังไม่ถึงรอบปรับในเดือน ก.ย. สะท้อนผลกระทบของการ Lockdown ที่รุนแรงโดยปัจจัยที่กนง. ติดตามคือกการกระจายและประสิทธิภาพของวัคซีนความเพียงพอของนโนบายการคลัง โดยรวมยังไม่เอื้อให้ SET Index ปรับขึ้นแรงกลยุทธ์ยังเน้น Selective Buy เก็งงบ 2Q21 โดดเด่น

(+) IRPC คาดกำไรปกติ 2Q21 +108% Q-Q และพลิกจากขาดทุนปีก่อนจาก GIM ของปีโตรเคมีที่ดีขึ้นและ Utilization ของโรงกลั่นที่เพิ่มขณะที่แนวโน้ม 2H21 คาดยังดีจากค่าการกลั่นที่เพิ่มช่วยชดเชย GIM ปิโตรเคมีที่ชะลอ อย่างไรก็ตามเราปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 5 บาท แต่ยังแนะนำ“ ซื้อ” (Source: FSSIA)

(0) INTUCH กำไร 2Q21 ตามคาด +9% Q-Q, -14% Y-Y เป็นไปในทิศทางเดียวกับ ADVANC และประกาศจ่ายปันผล 1.23 บาท/หุ้นคิดเป็น Dividend Yield 2% คงราคาเป้าหมาย 65 บาท แนะนำ “ถือ” (Source: FSSIA)

(+) PSL คาดกำไรปกติ 2Q21 สูงเป็นประวัติการณ์ +170% Q-Q และฟื้นจากขาดทุนใน 2Q20 จากดัชนีค่าระวางเรือขนาด Handy size (BHSI) +36% QQ, +331% Y-Y แต่คาดว่าจะชะลอในปี 2022 หลัง COVID-19 คลี่คลายเราคาดปี 2021 พลิกเป็นกำไรถึง 2.5 พันลบ. แต่ -22% Y-Y ปีหน้า ให้ราคาเป้าหมาย 25 บาทแนะนำ “ เก็งกำไร ”

(-) RT คาดกำไรปกติ 2Q21 อ่อนแอ -54% QQ, -81% Y-Y จากการติดเชื้อ COVID-19 ในแคมป์คนงานในกทม. และปริมณฑลกดดันรายได้และ Margin หดตัว แต่คาดทยอยฟื้นในครึ่งปีหลังเราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2021-2022 ลงเป็น -44%Y-Y และ +64% Y-Y ตามลำดับ ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 2.50 บาท ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” รอราคาอ่อนตัว

(-) ตลาดดาวโจนส์ลดลง 323.73 จุดหรือ 0.92% ปิดที่ 34,792.67 จุดหลังเปิดเผยการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 330,000 ตำแหน่งในเดือนก. ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนก. พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 653,000 ตำแหน่งรวมถึงผลประกอบการ 2Q21 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดของ บริษัท เจเนอรัลมอเตอร์ (GM) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐ

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, การเปิดเผยผลประกอบการ 2Q21 ที่แข็งแกร่งของ บริษัทจดทะเบียนและความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในยุโรป

(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสมโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้นตามดัชนี Nasdaq ในตลาดหุ้นสหรัฐ แต่กดดันจากการปรับลงของตลาดดาวโจนส์ท่ามกลางติดตามรายงานผลประกอบการ 2Q21 ของบริษัทจดทะเบียน

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอยู่ที่บริเวณ 33.13 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 2.41 ดอลลาร์หรือ 3.4% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรลหลัง EIA รายงานสด็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาสวนทางกับนักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลรวมถึงกดดันจากการแพร่ระบาดของ COVID-19

(+) ราคาทองค่า COMEX เพิ่มขึ้น 40 เซนต์หรือ 0.02% ปิดที่ 1,814.50 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐต่ำกว่าคาด

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,027.97 / +-

 

- Advertisement -