บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

ILM ผลประกอบการ 2Q64 ดีกว่าคาด

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +10.29%

Close Aug 5, 2021 Price (THB) 13.60

12M Target (THB) 15.00

Previous Target (THB) 17.00

What’s new?

  • รายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ท่ี 101 ลบ. -30.50% QoQ แต่โต 596.7% YoY ชะลอ QoQ เพราะรายได้ถูกกระทบจาก COVID-19 ระลอกใหม่ โดยเฉพาะส่วนของค่าเช่า แต่โตสูง YoY จากฐานท่ีต่ำในปีก่อนหน้า
  • ปรับประมาณการกำไรปี 2564 ลงเป็น 500 ล้านบาท (+18.79% YoY) เพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ท่ีรุนแรงกว่าคาด ส่วนปี 2565 ยังคงเดิมท่ี 644 ล้านบาท (29% YoY)

Our View

  • เรายังมีคงมุมมองบวกต่อผลประกอบการของ ILM แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เราจึงแนะนำให้รอสถานการณ์คลายตัวลงก่อน ถึงเป็นจังหวะเข้าลงทุน โดยราคาเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 15 บาท/หุ้น อิง PER 15 เทียบกับกลุ่มค้าปลีกของใช้ในบ้านท่ีซื้อขายบน PER เฉลี่ยสูงถึง 36 เท่า

ผลประกอบการถูกกระทบจาก COVID-19

รายได้ 2Q64 อยู่ที่ 2,033 ลบ. (-4.7 % QoQ, +11.2 % YoY) ดีกว่าคาดการณ์ของเราที่ 2,017 ลบ. รายได้ ลดลง QoQ เป็นผลจาก 1) รายได้จากการขายสินค้าลดลง 4.7% QoQ เนื่องจาก COVID-19 ระบาดรอบ 3 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายระมัดระวังขึ้น อย่างไรก็ดี มีแรงหนุนจากยอดขายผ่านช่องทาง Online อยู่เร่งตัวขึ้นสูงถึง 53.3% QoQ 2) รายได้จากพื้นที่เช่าปรับตัวลง 4.1% QoQ จากการที่บริษัทมีการลดค่าเช่าบางส่วนให้กับผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของภาครัฐ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเป็น 44.0% จาก 43.6% ใน 1Q64 เนื่องจากมีการขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชยราคา Particle Board ที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ และมีการเพิ่มสัดส่วนการขายในสินค้าและสาขาที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงด้าน SG&A ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย และค่าใช้จ่ายในการจัดส่งสินค้าปรับตัวขึ้นตามยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิ 2Q64 อยู่ที่ 101 ลบ. (-30.5% QoQ, +596.7% YoY) ดีกว่าคาดการณ์ของเราท่ี 92 ลบ.

ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 1% ขึ้น XD วันที่ 19 ส.ค. 64 และ จ่ายเงินวัน ท่ี 3 ก.ย. 64

ปรับประมาณกำไรสุทธิปี 2564 ลง รองรับผลกระทบจากโควิด

กำไรสุทธิ 1H64 คิดเป็น 42% ของประมาณการเดิมทั้งปี 2564 ที่ 583 ล้านบาท แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 4 รุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ภาครัฐมีการใช้มาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มข้น เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2564 ลงเป็น 500 ล้านบาท (+18.79% YoY) เป็นผลจาก i) การปรับรายได้จากการขายสินค้าและบริการลงเหลือ +4%YoY จากเดิม +6%YoY ii) จากการปรับรายได้จากการขายผ่านช่องทางหน้าร้านลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ยังมีแรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่คาดยังคงทำ New High ได้อย่างต่อเนื่อง iii) ปรับลดรายได้จากงานโครงการซึ่งชะลอตัวตามภาคอสังหาฯ ที่ถูกกระทบจากกำลังซื้อ และความล่าช้าจากการปิดแคมป์ก่อสร้าง 2) ปรับลดรายได้จากค่าเช่าลง เนื่องจากผู้ประกอบการมีการลดค่าเช่าบางส่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่ีได้รับผลกระทบจากมาตรการของภาครัฐ เช่น ปิดหา้งสรรพสินค้าคอมมูนิตีม้อลล์ เป็นต้น ทั้งนี้เราคงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 644 ล้านบาทโตสูง 29% YoY

Valuation ยังถูก….เพียงแค่รอจังหวะ Take Action

ผลจากการปรับประมาณการกำไรสุทธิลง ทำให้ราคาเหมาะสมใหม่ปี 2564 อยู่ที่ 15บาท/หุ้น อิง PER 15 ขณะท่ี Valuation ยังถูกมาก โดย PER2564 อยู่ท่ี 14 เท่า และ 11 เท่า ในปี 2565 เมื่อเทียบกับกลุ่มค้าปลีกของใช้ในบ้านที่ซื้อขายบน PER เฉลี่ยสูงถึง 36 เท่า แต่ในเชิงกลยุทธ์ยังไม่ใช่จังหวะลงทุน แนะนำให้รอสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศคลายตัวลงก่อนจึงเข้าไปลงทุนอีกครั้ง

- Advertisement -