บล.เคจีไอ:

BPP ประมาณการ 2Q64F: กำไรจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

Event

ประมาณการ 2Q64F

Impact

คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q64F จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ BPP ใน 2Q64F จะอยู่ที่ 1.07 พันล้านบาท (+34%YoY, +12.6%QoQ) โดยกำไรเพิ่มข้ึน YoY จะมาจากความพร้อมจ่าย (availability) และความมั่นคงของระบบ (reliability) ท่ีสูงของโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งมี EAF สูงกว่า 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 63% เพราะมีการปิดซ่อมบำรุง unit 3 ในขณะเดียวกัน กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะมาจากความพร้อมจ่าย (availability) และความมั่นคงของระบบ (reliability) ท่ีสูงของโรงไฟฟ้า i) Hongsa หงสา ซึ่งมี EAF สูงกว่า 90% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 83% เนื่องจากมีการปิด unit 2 ตามแผนซ่อมบำรุงประจำปี ii) BLCP ซึ่งมี EAF สูงกว่า 90% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 85% เนื่องจากเกิดกรณีท่อรั่ว สำหรับรายการที่ไม่เก่ียวข้องกับการดำเนินงาน เราคาดว่าบริษัทจะบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ 30 ล้านบาท ให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท (+61.7%YoY, +6.4%QoQ) เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 1H64F จะคิดเป็น 54% ของ ประมาณการกำไรปีน้ีของเรา

สถานการณ์ราคาถ่านหินให้ความร้อน (Thermal coal) ในประเทศจีน

เนื่องจากราคาถ่านหินพุ่งสูงข้ึนในปีน้ี จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศจีน เพราะไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนเชื้อเพลิงไปให้ผู้ซื้อไฟได้เหมือนกับการคำนวณค่าไฟฟ้าแบบ levelized tariff ที่ใช้ในประเทศไทย (หงสาและ BLCP) ดังนั้นโรงไฟฟ้าในประเทศจีนต้องแบกรับภาระต้นทุนที่แพงขึ้นเอาไว้เอง ซึ่งจะส่งผลให้กำไรจากธุรกิจหลักลดลงอย่างมาก โดยในปัจจุบัน ราคาถ่านหินในประเทศจีนอยู่ที่ประมาณ 155 ดอลลาร์ฯ เพิ่มข้ึนจากประมาณ 90 ดอลลาร์ฯ ในเดือนเมษายน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 80%QoQ ทั้งนี้โรงไฟฟ้าถ่านหินของ BPP ในประเทศจีนมีกำลังการผลิตรวมเท่ากับ 935MWe ซึ่งช่วยสร้างกำไรจากธุรกิจหลักให้กับบริษัทประมาณ 300 ล้านบาทใน 1Q64 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 28.7% อย่างไรก็ตาม กำไรจากธุรกิจหลักที่จะลดลงอย่างมากจากประเด็นราคาถ่านหินในจีน จะถูกชดเชยด้วย EAF ที่อยู่ในระดับสูงของโรงไฟฟ้าหงสาและ BLCP

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำขาย โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 14 บาท เราคาดว่าโรงไฟฟ้าหงสา และ BLCP น่าจะรักษา EAF ไว้ในระดับสูงใน 2H64 (85%-90%) จึงจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 เป็นไปตามประมาณการปีน้ีของเราที่ 3,744 ล้านบาท

Risks ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิต ไฟฟ้า, และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่

- Advertisement -