PSH แนะนํา ขาย ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท

คงแนะนํา ขาย ราคาเป้าหมายใหม่ 10.7 บาท

ผลประกอบการครึ่งปี แรกน่าจะซบเซา โดยกำไรลดลง 22%YoY เป็น 1 พันล้านบาท (40% ของประมาณการทั้งปีของเรา) เราคาดว่ากำไรในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก จากรับรู้รายได้จาก Backlog คอนโดมิเนียมมูลค่า 8 พันล้านบาท PSH มีคอนโดมิเนียมประมาณ 5 โครงการที่จะแล้วเสร็จในครึ่งปีหลัง ลดลงจากเดิมท่ีคาด 7 โครงการ เราประเมินกำไรปี 2564 จะทรงตัว YoY และเติบโตประมาณ 6% ในปีหน้า เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 65 มาที่ 10.7 บาท (ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน 14%) โดยอ้างอิงจากค่าเฉลี่ย 5 ปีท่ี P/E 8 เท่า ซึ่งเทียบเท่ากับคู่แข่งในอุตสาหกรรม

คาดการณ์ผลประกอบการ 2Q64/1H64

เราประมาณการรายรับ 2Q64 ท่ี 6.3 พันล้านบาท (-9%QoQ แต่ทรงตัว YoY) อัตรากำไรขั้นต้นของท่ีอยู่อาศัยดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เป็น 28% จาก 26.7% ใน 1Q21 ใน แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 36% อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 17.5% จาก 15% ใน 1Q21 เนื่องจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงพยาบาลวิมุตในเดือน พ.ค. 64 เราคาดกำไร 2Q64 จะอยู่ที่ 40 ล้านบาท (+5.5% YoY แต่ -27.4% QoQ) เนื่องจากไม่มีกำไรแบบครั้งเดียวเหมือนใน 1Q64 ดังนั้นกำไรงวด 6M64 ควรจะอยู่ที่ 1พันล้านบาท (-22%YoY)

ปัจจัยท้าทายในครึ่งปีหลัง

การปิดสถานที่ก่อสร้างหนึ่งเดือนในเดือนกรกฎาคมและการล็อกดาวน์กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายธุรกิจคอนโดมิเนียมอย่างน้อยสองแห่งจาก 7 แห่งท่ีวางแผนจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 64 ต้องเลื่อนออกไปปีหน้า และเราคาดว่าโครงการใหมจำนวนมากท่ีมีแผนจะเปิดตัวในครึ่งปีหลังของปี 64 จะต้องถูกเลื่อนออกไปในปีหน้าเช่นกัน ทั้งนี้ PSH ตั้งเป้า เปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 2.66 หมื่นล้านบาทในปีนี้ เพิ่มขึ้น 69%YoY นอกจากนี้ โรงพยาบาลวิมุตมีแนวโน้มท่ีจะขาดทนุประมาณ 100 ล้านบาทต่อไตรมาส หรือ 300 ล้านบาท ในปี 64 อาจต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี ในการสร้างผลกำไร อย่างไรก็ตามธุรกิจดูแลสุขภาพน่าจะเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจท่ีอยู่อาศัยในระยะยาว

ปรับลดประมาณการกําไร

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 64-6 5ลง 10% เป็น 2.7 พันล้านบาท และ 2.9 พันล้านบาท ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นอ่อนแอท่ี 27-28% (ค่าเฉลี่ย 36% 2016-20) อัตราส่วนคี่าใช้จ่ายต่อการขายท่ีสูง ขึ้นและอัตรากำไรสุทธิที่ต่ำกว่า 10% (ค่าเฉลี่ย 12% 2016-20)