เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.40 บ./หุ้น พร้อมดัน JMART-W5 เข้าเทรด 13 สิงหาคม นี้
กลุ่มเจมาร์ท ประกาศผลงานครึ่งปีแรก 64 นำโดย JMART กำไรพีคแรง 113% โดยมีธุรกิจการเงินเป็นหัวหอกส่งกำไรเข้ามาต่อเนื่อง มองผลงานครึ่งปีหลังยังร้อนแรงแม้สถานการณ์โควิด บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์ นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นขับเคลื่อนธุรกิจยุคดิสรัปฯ หนุนโอกาสโตกระโดดจากความพร้อมในการ Synergy การพัฒนาเทคโนโลยีและฟินเทคที่เริ่มเห็นภาพชัดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ขณะที่แผนจับมือพันธมิตรจะเริ่มเห็นความคืบหน้า ด้านบอร์ดไฟเขียวควักกระเป๋าจ่ายปันผล 0.40 บ./หุ้น และดัน JMART-W5 เข้าเทรด 13 สิงหาคม 2564 นี้ ย้ำผลงานทั้งปี All Time High ไม่พลาดเป้า
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Investment Holding Company (IHC) เปิดเผยว่า แม้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น กลุ่มบริษัทได้เตรียมกลยุทธ์รองรับมาตรการดังกล่าว และการผนึกกำลังในเครือ สนับสนุนให้ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ยังคงความสามารถการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง มีกำไรสุทธิ 232.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,648.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9%
โดยมีธุรกิจด้านการเงินเป็นหัวหอกในการทำกำไร ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 กำไรสุทธิอยู่ที่ 565.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,531.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8%
ปัจจัยในการเติบโต เนื่องจากรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้าสูงขึ้น ตามยอดขายจากธุรกิจมือถือที่เติบโต ภาพรวมธุรกิจบริหารหนี้ของ JMT ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ J และสินเชื่อของ SINGER ยังคงมีผลงานที่เติบโต และส่งกำไรมาให้เจมาร์ทได้อย่างแข็งแกร่ง เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลระหว่างกาล จากงวดดำเนินงานครึ่งปีแรก เป็นเงินสด 0.40 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 สิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผล 8 กันยายน 2564 พร้อมดัน JMART-W5 เข้าเทรด 13 สิงหาคม นี้
ทั้งนี้ เจมาร์ทยังเดินหน้าขยายการเติบโตสอดรับกับดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่น ขับเคลื่อนองค์กรด้วยฟินเทคและเทคโนโลยี และการ Synergy สร้าง ecosystem ภายในกลุ่มบริษัทได้อย่างครบวงจร ทั้งในด้านการเงิน ค้าปลีกและพื้นที่เช่า รวมถึง เทคโนโลยีที่จะเป็นหัวหอกในการปรับเกมธุรกิจเข้าสู่ Digitization การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในโลกจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึง แผนการปล่อยสินเชื่อแบบ Digital Lending ที่เราได้เริ่มทำเรียบร้อยแล้ว เข้าสู่การเป็นผู้นำด้านฟินเทคตัวจริงเสียงจริง พร้อมพัฒนาโครงการอื่นๆ อีกมากมาย จากความร่วมมือกับพันธมิตรลุยต่อยอดธุรกิจในครึ่งปีหลัง คาดเห็นภาพชัดเจนขึ้น และยังคงมั่นใจเป้าหมายกำไรสุทธิปีนี้จะสามารถทำ All Time High เติบโต 50% ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้