Retail Market Monitor

บอนด์ยีลฟินแรง หนุนหุ้นกลุ่ม reflation ขึ้นเด่นกว่ากลุ่มเทคโนโลยี

ตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ฟื้นตัวแกร่งช่วยหนุนภาพการลงทุนแบบ reflation trade แต่อาจเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, ตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวและให้ผลตอบแทนแย่กว่า Dow Jones กับ S&P500 สะท้อนผ่านมุมมองของนักลงทุนต่อภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นที่เป็นบวก โดยเราเชื่อว่าธีมการลงทุนดังกล่าวจะถูกส่งต่อมายังตลาดหุ้นไทยด้วยในระยะสั้น – กลาง เรายังชอบหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี เดินเรือ จากราคาน้ำมันเหล็กที่ปรับขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารที่คาดได้อานิสงส์จากราคาที่ laggard และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดช่วง 6 วันที่ผ่านมา ขณะที่หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และหุ้นส่งออกอื่น ๆ จากเงินบาทที่พลิกแข็งค่าแรง อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรกดดันในช่วงสั้น

การรายงานกำไรที่ดีกว่าคาดช่วย จำกัด downside risk, แม้ว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะยังมีความท้าทายจากการระบาดของสถานการณ์โควิดในประเทศ อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 จนถึงตอนนี้ส่วนใหญ่ยังออกมาดีกว่าคาด และช่วยลดความตึงตัวของมูลค่าตลาดในมิติของ earings yield gap ขณะที่การไม่หลุดต่ำกว่า 1515 จุด หรือบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 200 วัน ส่งผลให้ภาพเชิงเทคนิคระยะสั้นเป็นบวกมากขึ้น SET มีโอกาสฟื้นตัวทดสอบ 1,565-1,590 จุด โดยเรายังคงมุมมองระมัดระวัง และเน้นเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นแบบกำหนดจุดทำกำไรและตัดขาดทุน อย่างไรก็ตามการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐฯจะส่งผลให้กลุ่มตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวด้อยกว่าตลาดสหรัฐฯ จากผลของทิศทางกระแสเงินทุนไหลกลับ 

ธีมการลงทุนระยะสั้น กลุ่มสื่อสาร และ REITs ยังเป็นแหล่งพักเงินที่ดีในช่วงที่ตลาดกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงการปรับประมาณการผลประกอบการที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เรามองทยอยสะสม ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART / เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน JAS, ALT / ทยอยสะสมสาธารณูปโภค RATCH, EASTW, WHAUP, TTW / กลุ่มอาหารและเกษตร TVO, TU, CPF, GFPT, TWPC / เก็งกำไรกลุ่มเดินเรือ PSL, TA, RCL / เก็งกำไรกลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ SMD, WINMED, BZ / เก็งกำไรกลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP, BGC / กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์แม้แนวโน้มผลประกอบการดี แต่ระยะสั้นถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น และจากความเสี่ยงการผลิตอาจกระทบหากมีพนักงานติดโควิด

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังมองเป็นการฟื้นตัวในแนวโน้มลง อย่างไรก็ตามมีโอกาสคาดหวังการฟื้นตัวในระดับ 5-10% หลังหุ้นขนาดใหญ่ปรับลดลงมาแรง 20-30% // หุ้นแนะนำ: GPSC *, TTA *, PTTGC *, ADVANC *

แนวรับ: 1,515 / แนวต้าน: 1,550-1,565 จุด สัดส่วน: เงินสด 60%: พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

US PPI พุ่งเกินคาด – กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ค. พุ่งขึ้น 1% mom สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 0.6% เมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 7.8% yoy แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553

Msci Rebalance – ผลการปรับหุ้นเข้า-ออกดัชนี MSCI รอบนี้ หุ้นไทยมีเพียง BBL-F ที่หลุดจากดัชนี MSCI Global Standard มีผลสิ้นวันทำการ 31 ส.ค. 64

สายการบิน – รมว. คมนาคมเร่งกพท. ช่วยสายการบินที่ยังติดปัญหาซอฟท์โลน พร้อมจัดทำโรดแมพเพื่อรองรับการฟื้นตัวภายในเดือน ส.ค.

EA – คาดโรงงานแบตเตอรี่เริ่มผลิตได้ไตรมาส 3/64 เผยเริ่มส่งมอบรถบัสไฟฟ้าในเดือน ส.ค. นี้หลังประกอบแล้วเสร็จกว่า 100 คันเดินหน้าขยายตลาดกรีนดีเซลและ PCM

ประเด็นติดตาม:- 16 ส.ค.:Chinese Industrial Production เดือนก.ค., Thailand GDP Q2/64/17 ส.ค.: EU GDP Q2/64 / 25 ส.ค.: Thailand Focus

ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร GPSC* (100) : คาดการเข้าซื้อกิจการและทำ M&A จะยังเป็นบวกต่อผลการดำเนินงาน เก็งกำไรโดยกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 77 บาท
  • เก็งกำไร T T A * ( 1 9 ) : คาดผลการดำเนินงานกลุ่มเดินเรือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เก็งกำไรโดยกำหนด. ตัดขาดทุนที่ 14.50 บาท
  • เก็งกำไร PTTGC* (64) : เก็งกำไรการฟื้นตัวทางเทคนิค ตัดขาดทุน 55.5 บาท
  • เก็งกำไร ADVANC*(195): คาดผลตอบแทนปันผลมีโอกาสปรับข้ึนหากมีการออกกอง IF เก็งกำไรการฟื้นตัวทางเทคนิค ตัดขาดทุน 179 บาท

( * หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค. ) โดยดาวโจนส์และ S&P500 ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค. ) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทประกัน และกิจกรรมการควบรวมกิจการ (M&A) ของ บริษัทในอังกฤษ ซึ่งได้ช่วยชดเชยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น: ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากตลาดบวกขึ้นติดต่อกัน 4 วัน และบรรยากาศการซื้อขายยังได้รับผลกระทบจากยอดติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในญี่ปุ่น (อินโฟเควสท์)

ตลาดน้ำมัน: สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WT) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกปีนี้ อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดทั่วโลก นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สหรัฐเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน (อินโฟเควสท์)

US PPI พุ่งเกินคาด: วุฒิสภาสหรัฐลงมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน $1 ล้านล้าน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และสร้างงานครั้งใหญ่ให้แก่ชาวอเมริกัน โดยในขั้นตอนต่อไปวุฒิสภาจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

MSCI Rebalance: ผลการปรับหุ้นเข้า-ออกดัชนี MSCI รอบนี้ หุ้นไทยมีเพียง BBL-F ที่หลุดจากดัชนี MSCI Global Standard มีผลสิ้นวันทำการ 31 ส.ค. 64

สายการบิน: รมว. คมนาคมเร่งกพท. ช่วยสายการบินที่ยังติดปัญหาซอฟท์โลน พร้อมจัดทำโรดแมพเพื่อรองรับการฟื้นตัวภายในเดือน ส.ค.

EA: คาดโรงงานแบตเตอรี่เริ่มผลิตได้ไตรมาส 3/64 เผยเริ่มส่งมอบรถบัสไฟฟ้าในเดือน ส.ค. นี้หลังประกอบแล้วเสร็จกว่า 100 คันเดินหน้าขยายตลาดกรีนดีเซลและ PCM

Report & Corporate News

AOT: Upgraded HOLD TP: 58.00 บาท

จากต้นทุนด้านพนักงานที่สูงขึ้นใน 3QFY21 นำไปสู่การขาดทุนที่กว้างขึ้น แม้ว่าการเพิ่มขึ้น 26%yoy คือรายได้จากการดำเนินงาน เราไม่ได้มองโลกในแง่ดีต่อการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการจราจรระหว่างประเทศ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักสำหรับการท่องเที่ยวในขณะเดียวกันทอท. มีแนวโน้มที่จะขยายมาตรการบรรเทาทุกข์สำหรับผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ในปีงบประมาณ 22 ข่าวลบส่วนใหญ่สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นอยู่แล้ว ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ถือ ราคาเป้าหมาย 58.00 บาท

CHG: Maintained BUY TP: 4.60 บาท

แม้ว่าเราจะประมาณการกำไรขั้นต้นที่น่าประทับใจ แต่กำไรหลัก 2Q21 มาดีกว่าที่คาดไว้มาก โดยพุ่งขึ้น 272% yoy เป็น 576 ล้านบาท จากอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาดเราคาดว่ากำไร 3Q21 จะยังคงอยู่ในระดับสูงเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันยังคงรุนแรง โดยมีอัตราการเติบโตที่ช้าลง qoq คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท

COM7: Maintained BUY TP: 83.00 บาท

COM7 รายงานกำไรสุทธิ 2Q21 ที่แข็งแกร่งที่ 587 ล้านบาท (+114% yoy และ 4% QoQ) โดยได้แรงหนุนหลักจากยอดขายสมาร์ทโฟน 5G ที่แข็งแกร่ง โมเมนตัมของยอดขายสมาร์ทโฟน 5G ยังคงแข็งแกร่งในไตรมาส 3Q21 ในขณะที่ 56% ของร้านค้าปลีกทั้งหมดของ COM7 ถูกปิดชั่วคราวจากการระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมป๊อปอัปสโตร์เพื่อลดยอดขายจากการปิดร้าน คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท

PTT: Maintained BUY TP: 55.00 บาท

กำไรสุทธิ 2Q21 ของ PTT ต่ำกว่าประมาณการของเราเล็กน้อยและตลาดคาด จากผลขาดทุนจากการด้อยค่าที่คาดไม่ถึงของ Emery (บริษัท ย่อยของ PTTGC) กำไรหลัก 2Q21 ดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจก๊าซและปิโตรเคมีรวมถึงจาก PTTEP เราคาดว่ากำไร 3Q21 จะอ่อนตัวลงจากราคาปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง ปริมาณการขายก๊าซที่แย่ของ GSP และกำไรที่ลดลงจาก OR หุ้น top picks ของเรายังคงเป็น PTTGC และ ML คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 55.00 บาท

KCE: Maintained BUY TP: 100.00 บาท

ฝ่ายบริหารยังคงเป้ารายได้ของปี 2021 ตามแผนเดิม โดยคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีในครึ่งปีหลัง แม้จะมีผลกระทบที่คาดไม่ถึงจากโควิด -19 เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2021-22 ขึ้น 8% และ 14% ตามลำดับ เพื่อพิจารณาความสามารถในการรองรับที่สูงกว่าคาดในครึ่งปีหลังและ 2022 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายสูงขึ้นที่ 100.00 บาทโดยอิงจาก PE 39 เท่า 2022F หรือ PE เฉลี่ยห้าปี

BGRIM:

BGRIM เร่งปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 500 เมกะวัตต์ในช่วงครึ่งปีหลัง แจ้งงบไตรมาส 2/64 วันนี้โบรกฯ คาดมีกำไรสุทธิ 751 ล้านบาท โตกว่า 22.8% จากไตรมาสก่อน เหตุปริมาณขายไฟฟ้าลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 40% (ข่าวหุ้น)

SPALI / COM7 / STA

ศุภาลัยเจ๋งไตรมาส 2/64 กำไร 1,730 ล้านบาท โต 312% หนุนครึ่งปีแรกกำไร 2,471.54 ล้านบาท โต 111% ปันผล 0.50 บาท ฟาก COM7 เบ่งกำไร 1,152.7 ล้านบาท พุ่ง 105% ส่วน STA เริ่ด Q2 ฟันกำไร 5,043 ล้านบาท โตกระฉูด 361% หนุนครึ่งปีแรกกำไร 11,002 ล้านบาท โต 464% ปันผล 1.25 บาท (ข่าวหุ้น)

EA:

EA คาดโรงงานแบตเตอรี่เริ่มผลิตได้ 3Q64 เผยเริ่มส่งมอบรถบัสไฟฟ้าในเดือนสิงหาคมนี้ หลังประกอบแล้วเสร็จกว่า 100 คัน เดินหน้าขยายตลาดกรีนดีเซลและ PCM เสริมการเติบโตพร้อมอวดกำไร 2Q64 ที่ 1.19 พันล้านบาท จากรายได้ที่เติบโตต่อเนื่องหนุนกำไร 6 เดือนทะลุ 2.6 พันล้านบาท และมีรายได้ 9.64 พันล้านบาท เดินหน้าโครงการลงทุนต่อเนื่อง (ทันหุ้น)

STA/STGT:

STA อวดงบ Q2 / 2564 มีกำไรสุทธิ 5,043.7 ล้านบาท เติบโต 361.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับยานยนต์ฟื้น หนุนดีมานด์ยางล้อพุ่ง พร้อมปรับเป้าขายยางธรรมชาติปีนี้เป็น 1.3 ล้านตัน จัดปันผลระหว่างกาล 1.25 บาทต่อหุ้นส่วน STGT เดินหน้ากำลังผลิตเตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล 1.25 บาทต่อหุ้นจ่อขึ้น XD วันที่ 23 สิงหาคม 2554 (ทันหุ้น)

 

- Advertisement -