บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Eastern Polymer Group (EPG) กําไร 1Q64/65 ทําสถิติ เพิ่มประมาณการ

Results Review

ผลประกอบการ 1Q64/65

ผลประกอบการ 1Q64/65 (เม.ย.-มิ.ย.2564) มีกำไรท่ีโดดเด่น และทำสถิติสูงสุดใหม่ 448 ล้านบาท (+11%QoQ, +492%YoY) มากกว่าที่เราจะมีกำไร 415 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากธุรกิจอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งรถยนต์ (AeroKlas) โต 95%YoY จากการเติบโตอุตสาหกรรมรถยนต์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหลักออสเตรเลีย และ TJM มีการเติบโตสูง ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น (AeroFlex) โต 29%YoY ได้แรงบวกจากตลาดสหรัฐฯฟื้นตัวดีบวกมีกำลังการผลิตใหม่ ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก (EPP) ซึ่งขายในประเทศส่วนใหญ่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาด Covid-19 ยอดขายโตเล็กน้อย 1%YoY รวมแล้วยอดขายมีการเติบโตต่อเนื่องเท่ากับ 2,938 ล้านบาท(+9%QoQ, +50%YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น 32.8% จาก 31.7% ในไตรมาสก่อน และ 28.9% ในปีก่อน จากการทยอยปรับราคาขึ้น และต้นทุนปิโตรเคมีเร่ิมปรับลดลง

แนวโน้มผลประกอบการ

ธุรกิจของ EPG ทั้งสามธุรกิจ มีแนวโน้มจะเติบโต คือ 1) ธุรกิจ AeroFlex ได้แรงบวกจากตลาดสหรัฐฯ ซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 40% ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัว รองรับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2) ธุรกิจ AeroKlas ได้แรงบวกจากอุตสาหกรรมรถยนต์ต่างประเทศฟื้นตัวแรง และ TJM โตสูง แม้ว่าตลาดในประเทศจะชะลอตัว 3) ธุรกิจ EPP ได้แรงบวกจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม คาดจะมีการเติบโตแม้ไม่เด่น จากกำไรไตรมาสแรกที่โดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่และมากกว่าคาด เราปรับเพิ่มประมาณการยอดขายและกำไรปี 2564/65 ขึ้น 9%/13% ตามลำดับ คาดยอดขายปีนี้เท่ากับ 11,697 ล้านบาท โต 22% และมีกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,652 ล้านบาท โต 36% ประมาณการของเรายังค่อนข้างอนุรักษ์นิยม เพราะกำไรไตรมาสแรก 1Q64/65 มีสัดส่วนคิดเป็น 27% ของประมาณการทั้งปี

คําแนะนําการลงทุน

ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปี 2564/65 เท่ากับ 21.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย 19.4 เท่า จากแนวโน้มเติบโตเด่น และทำสถิติสูงสุดใหม่ มี EV/EBITDA 14.9 เท่า มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.3% เราประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF (WACC 8%, LTG 3%) ได้ เท่ากับ 15 บาท เพิ่มจากเดิม 13.5 บาท จากประมาณการท่ีปรับขึ้นเราคงแนะนำ ซื้อ

ความเสี่ยง

ภาวะผันผวนของราคาวัตถุดิบ/อุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์/การบอกเลิกสัญญาของคู่ค้า/อัตราแลกเปลี่ยน

- Advertisement -