บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +27.3%

Close Aug 11, 2021 Price (THB) 41.25

12M Target (THB) 52.50

Previous Target (THB) 61.00

What’s new?

  • เรายังคงประมาณการกำไรปี 2564 แต่ปรับประมาณการกำไรปี 2565 ลง 16.6% เป็น 11,142 ลบ. (-43.4%) YoY จากการปรับประมาณการธุรกิจถุงมือยางลง
  • ธุรกิจกัญชงมีความชัดเจนมากขึ้นหลังบริษัทได้ใบอนุญาตปลูก และมีลูกค้ารองรับผลผลิตแล้ว คาดเร่ิมปลูกในเดือน พ.ย. เร่ิมเก็บเก่ียวใน 1Q65 ซึ่งในอนาคตมีโอกาสขยายธุรกิจหาก ตลาดเติบโตได้ดี เป็น Upside ต่อประมาณการ

Our View

  • เรายังคงมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในระยะยาวของ STA คาด 3Q64 ผลประกอบการจะกลับมาเติบโต QoQ และโตสูง YoY จากโรงงานถุงมือยางท่ีกลับมาผลิตได้ตามปกติ, ธุรกิจยางธรรมชาติท่ีดีต่อ และอานิสงส์จากค่าเงินบาทเทียบ USD ท่ีอ่อนค่า
  • ผลของการปรับประมาณการกำไรปี 2565 และราคาเป้าหมายของ STGT ลง ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ของ STA ท่ี 52.50 บาท มี Upside gain 27.3% จึง ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

SRI TRANG-AGRO INDUSTRY ยางพารายังแกร่ง คาดโต YoY ต่อทุกไตรมาสท่ีเหลือของปี

แนวโน้มกำไร 3Q64 กลับมาเติบโตทั้ง QoQ และ YoY

คาดแนวโน้มกำไรปกติ 3Q64 ของ STA ที่ราว 5,200 +/- ลบ. กลับมาเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ได้จากธุรกิจถุงมือยางที่โรงงานกลับมาดำเนินการผลิตได้เป็นปกติ และมีกำลังการผลิตจากโรงงานใหม่ผลิตเต็มกำลังการผลิตเป็นไตรมาสแรก ทำให้ปริมาณขายจะเพิ่มราว 40% QoQ สูงกว่าราคาขายเฉลี่ยที่จะลดลงราว 25-30% QoQ ส่วนธุรกิจยางธรรมชาติคาดราคาขายเฉลี่ยจะปรับลงเล็กน้อย แต่จะยังไม่ต่ำกว่า 165 cent/กก. จาก 2Q64 ที่ 172 cent/กก. ส่วนปริมาณขายจะยังสูงขึ้นต่อจากอุปสงค์ล้อยางที่ยังสูง รวมถึงมีรายได้เพิ่มจากลูกค้าอินเดียที่รับซื้อยางที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดด้วย ประกอบกับได้รับอานิสงส์ของค่าเงินบาทเทียบ USD ที่อ่อนค่าที่จะรับรู้ผลได้เต็มไตรมาสช่วยหนุนรายได้ของ STA

ธุรกิจกัญชงมีความชัดเจนขึ้นเริ่มรับรู้รายได้ปี 2565

ธุรกิจกัญชงได้รับความชัดเจนมากขึ้นหลังจากบริษัท ได้ใบอนุญาตในการปลูกและทำสัญญาซื้อขายผลผลิตกัญชงกับลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มเครื่องสำอางและเวชภัณฑ์แล้ว โดยคาดจะเริ่มปลูกครอปแรกบนพื้นที่ 5 ไร่ในช่วงเดือน พ.ย. นี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วง 1Q65 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามหากพื้นที่ปลูกยังต่ำกว่า 200 ไร่ถือว่าไม่มีนัยยะต่อประมากรรายได้และกำไร เพราะเน้นราก, ใบ, ลำต้นที่ไม่ใช่ดอกที่มีมูลค่าสูง แต่ในอนาคตหากตลาดเป็นที่ต้องการจะมีโอกาสที่ STA จะขยายพื้นที่ปลูกได้อีก

ปี 2565 ธุรกิจยางพาราดีต่อ แต่ปรับประมาณการกำไรลงจากธุรกิจถุงมือยาง

กำไรธุรกิจยางพาราคาดจะทำจุดสูงสุดได้ใน 4Q64 และบริษัทได้ปรับเป้าปริมาณขายยางพาราในปี 2564 เป็น 1.3 ล้านตันจากเดิมที่ 1.2 ล้านตัน จากแนวโน้มการส่งออกที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตามเรายังคงประมาณการปี 2564 ไว้ แต่จากการที่เราปรับประมาณการธุรกิจถุงมือยางปี 2565 ลงจากแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงเร็วกว่าคาด ทำให้เราปรับประมาณการรายได้ของ STA ในปี 2565 ลง 4.5% เป็น 132,151 ลบ. ลดลงน้อยกว่ารายได้ถุงมือยางที่ปรับลง เพื่อสะท้อนกำลังการผลิตใหม่ของธุรกิจยางพาราที่จะเพิ่มขึ้นราว 10% จากการลงทุนเครื่องจักรใหม่ ซึ่งเรายังมองว่าธุรกิจยางพารายังอยู่ในทิศทางขาขึ้น และการปรับสมมติฐานค่าเงินบาทเทียบ USD ขึ้นเป็น 32.5 บาท/USD จากเดิมที่ 31.5 บาท/USD GPM ปรับเป็น 20.8% จากเดิมที่ 23.4% จากสัดส่วนรายได้ถุงมือยางที่ลดลง โดยรวมส่งผลให้กำไรปกติปี 2565 ปรับลง 16.6% เป็น 11,142 ลบ. (-43.4%YoY)

ปรับราคาเป้าหมายลง แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ผลของการปรับราคาเหมาะสม STGT ลงเป็น 47.25 บาท และการปรับกำไรของ STA ปี 2565 ลงอิงการประเมินมูลค่าด้วยวิธี SOTP ได้มูลค่าเหมาะสมของธุรกิจถุงมือยางที่ 33.10 บาท (Holding Discount 30% จาก NAV ของ STGT ตามสัดส่วนที่ STA ถือหุ้น) และมูลค่าเหมาะสมธุรกิจยางธรรมชาติที่ 19.40 บาท (อิง PER65 ที่ 10 เท่า และ EPS65 เที่ 1.94 บาท) ได้ราคาเป้าหมายใหม่สิ้นปี 2565 ของ STA ที่ 52.50 บาทปัจจุบันซื้อขายด้วย PER64 และ PER65 ต่ำ เพียง 3.2 เท่า และ 5.7 เท่า ตามลำดับ โดยมีธุรกิจกัญชงที่เรายังไม่รวมไว้ในประมาณการเป็น Upside คงคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -