บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
SRI TRANG GLOVES (THAILAND) ASP ลงแรงกว่าคาด แต่ราคาหุ้นสะท้อนไปแล้ว
Action
BUY (Maintain)
TP upside (downside) +19.6%
Close Aug 11, 2021 Price (THB) 38.25
12M Target (THB) 45.75
Previous Target (THB) 58.50
What’s new?
- แนวโน้ม ASP ลดลงเร็วกว่าคาดใน 3Q64 แต่เร่ิมเห็นสัญญาณมีเสถียรภาพมากขึ้นใน 4Q64 ไม่กระทบประมาณการปี 2564
- เราระมัดระวังมากขึ้นกับ ASP ในปี 2565 จึงปรับลงจาก 1.5 บาท/ชิ้น เป็น 1.2 บาท/ชิ้น กระทบกำไรลง 22%
- แต่ด้วยความท่ีราคาหุ้นปรับตัวลงสะท้อนปัจจัยลบไปมากกว่าท่ีควรจะเป็นจึงยังมี Upside gain จากราคาตลาดสูง
Our View
- เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มกำไรของ STGT จากเดิมเป็นบวก
- แม้ปรับประมาณการลงค่อนข้างมากยังเหลือ Upside gain อีก 19.6% จึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ
- แต่เป็นหุ้นท่ีเหมาะกับนักลงทุนท่ีคาดหวังเงินปันผลมากกว่า Capital gain
- ปัจจุบันซื้อขายท่ี PER65 เพียง 7.5 เท่า
ครึ่งปีหลัง ASP หด แต่เริ่มชะลอการลงใน 4Q64 กำไรทั้งปี 64 อาจดีกว่าคาด
คาดกำไรใน 3Q64 เบื้องต้นที่ 7,300 ลบ. +/- ทรงตัว QoQ และยังเติบโตสูง YoY ได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีกราว 20% และปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ในเส้นทางเอเชียเริ่มดีขึ้น ทำให้ปริมาณขายอาจเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 40%QoQ เป็นราว 8,000 ล้านชิ้น ขณะที่ ASP อาจลดลงถึงราว 30% ของราคาขายในรูปเงิน US$ แต่ในรูปเงินบาทอาจกระทบน้อยกว่า 3–5% จากผลของค่าเงินบาทอ่อนค่า QoQ และต้นทุนยางสังเคราะห์เริ่มลดลง แต่ลดลงน้อยกว่า ASP คาดเบื้องต้นที่ราว 1.61 บาท/ชิ้น จาก 2.27 บาท/ชิ้นใน 2Q64 แต่สำหรับคำสั่งซื้อในเดือน ต.ค. เริ่มเห็นความมีเสถียรภาพของ ASP มากขึ้น โดยอุปสงค์ฝั่งตะวันตกยังทรงตัวไม่ลดลง แต่ไม่เพิ่มขึ้น ส่วนฝั่งเอเชียยังเติบโต แต่ราคาลดลงเพราะ Supply ในตลาดมากขึ้น แต่มาเลเซียไม่สามารถผลิตได้เต็มกำลังการผลิตจึงทำให้ Downside ของ ASP เริ่มจำกัด ใน 4Q64 คาดกำไร 4Q64 ทรงตัวที่ 7,000-7,300 ลบ. +/- ทำให้ 2H64 กำไรอาจสูงกว่า 14,000 ลบ. ทำให้ทั้งปีกำไรจะทำ New high ที่ราว 32,000 ลบ. สูงกว่าที่เราคาดไว้ที่ 29,837 ลบ.
ปรับ ASP และกำไรปี 2565 ลง
เนื่องจาก ASP ที่ลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ใน 3Q64 เพื่อให้ประมาณการรัดกุมมากขึ้น เราจึงปรับประมาณการ ASP ในปี 2565 ลงจาก 1.50 บาท/ชิ้น เป็น 1.20 บาท/ชิ้น ส่งผลให้กำไรปี 2565 ลดลง 22% เป็น 14,614 ลบ. (-51.0%YoY) ซึ่งเราประเมินว่าที่ระดับดังกล่าวทำให้ประมาณการกำไรของเรามี Downside risk จำกัด และยังไม่รวมโอกาสในการลงทุนในธุรกิจอื่นที่บริษัทอยู่ระหว่างศึกษา เช่น เครื่องมือแพทย์ เป็นต้น
ยังคงคำแนะนำ ซื้อ เหมาะกับคนชอบหุ้นปันผล
ผลของการปรับประมาณการกำไรปี 2565 ลง ทำให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 อิง PER ที่ 9 เท่าเช่นเดิม ลดลงเป็น 45.75 บาท ซึ่งยังมี Upside gain อีก 19.6% สะท้อนว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมามากจนสะท้อนปัจจัยลบของ ASP ที่ปรับตัวลงแรงไปมากแล้ว ทำให้แม้เราปรับ ASP ลงเหลือ 1.20 บาท/ชิ้น (-40% YoY) ยังมี Upside gain จากราคาตลาด จึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER65 ต่ำเพียง 7.5 เท่า แต่ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเหมาะกับการลงทุนที่หวังเงินปันผลมากกว่าส่วนต่างราคา โดยบริษัทระบุชัดเจนว่าจะจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นไม่ต่ำกว่า 1.25 บาท/หุ้นใน 3Q64 ซึ่งเราคาดว่าจะจ่ายในระดับนี้ได้ต่อใน 4Q64 หรือรวม 2H64 จ่ายอีกไม่น้อยกว่า 2.50 บาท ให้ผลตอบแทน 6.5% เพื่อที่จะถึงนโยบายที่ 50% ของกำไรสุทธิ แต่เราคาดว่ามีโอกาสในการจ่ายมากกว่า 50% ของกำไรสุทธิในปี 2564 เพราะกระแสเงินสดในบริษัทค่อนข้างสูงมาก