บล.ทรีนีตี้ :

กรุงเทพดุสิตเวชการ- BDMS รายได้จาก COVID-19 นับเป็น 11% ของรายได้รวม

ประเด็นสำคัญจากการประชุม

  • รายงานกำไรสุทธิใน 2Q64 ที่ 1.45 พันล้านบาทปรับตัวสูงขึ้น 8.5%QoQ และ 217%YoY โดยการปรับตัวสูงขึ้น YoY มาจากฐานที่ต่ำในช่วง 2Q63
  • สัดส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ใน 2Q64 นับเป็น 11% ของรายได้จากการบริการทางการแพทย์สูงกว่าใน 1Q64 ที่มีสัดส่วนเพียง 5% ของรายได้รวม และคาดว่าใน 3Q64 จะยังมีสัดส่วนที่มากกว่า 10% จากการรับตรวจเชื้อที่สูงขึ้น (ใน 2Q64 เฉลี่ยที่ 3,950 ราย/วัน และเดือน ก.ค. 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 6,850 ราย/วัน) และการรับรักษาผู้ป่วย COVID-19 ทั้งในโรงพยาบาลและ Hospitel (จำนวน 4,500 เตียงจาก 1Q64 ที่ 900 เตียง) ที่สูงขึ้น โดยในปัจจุบัน Occupancy rate อยู่ที่ราว 95%
  • รายได้จาก Non COVID-19 เริ่มมีการฟื้นตัวที่ 12%YoY โดยที่อัตราการครองเตียงอยู่ที่ 58% แม้ว่าคนไข้ต่างชาติจะยังไม่สามารถกลับมารับการรักษาได้ แต่ฐานคนไข้ไทยได้ปรับตัวสูงขึ้น
  • คงคาดการณ์ EBITDA Margin ของทั้งปี 2564 ที่ 22% โดยที่ใน 2Q64 มี EBITDA Margin อยู่ที่ 21.2% และการรับคนไข้ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นการกระทบต่อ Margin แม้ว่ารายได้บางส่วนมาจากการสนับสนุนของภาครัฐ
  • การใช้ Antigen Test คาดว่าจะส่งผลให้มีการตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลลดลง อย่างไรก็ดีการที่จะเข้ารับการรักษายังคงต้องทำการตรวจเชื้อ COVID-19 แบบ PCR ก่อน จึงคาดว่าจำนวนตรวจเชื้อเฉลี่ยรายวันใน 3Q64 จะยังคงสูงกว่า 2Q64
  • คาดคนไข้ต่างชาติจะฟื้นตัวในปี 2565 จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าใน 4Q64 จะมีการกลับมาของคนไข้ Fly In แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ยังรุนแรง ทาง BDMS จึงคาดว่าในช่วง 4Q64 อาจยังมีจำนวนคนไข้ต่างชาติไม่มาก 

Comment

คาดสัดส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 จะสูงขึ้นใน 3Q64 เนื่องจากการระบาดที่รุนแรงมากขึ้นและมีจำนวนเตียงรับผู้ป่วยทั้งที่โรงพยาบาลและ Hospitel เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่การฟื้นตัวของคนไข้เงินสดเริ่มดีขึ้นจากกลุ่มคนไข้ไทย เนื่องจากทางโรงพยาบาลได้จัดสรรพื้นที่ให้บริการแยกจากกัน ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วย OPD ยังสามารถเติบโตได้เรายังคงคาดว่าปี 2564 จะมีกำไรที่ 8.64 พันล้านบาท เติบโต 19.8%YoY โดยปัจจุบัน BDMS เทรดอยู่ที่ EV/EBITDA ที่ 23X และคาดการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งจากการดำเนินงานปกติของ BDMS หลังจากวิกฤติ COVID-19 ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 26.75 บาท

- Advertisement -