Daily Focus

ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index ปรับตัวลงอีก 4.39 จุดโดยยังคงมีแรงขายในหุ้นขนาดกลางเล็กหลายตัวที่ปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า โดยคาดตลาดกังวลผลกระทบของ COVID-19 ที่ลากยาว สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นเกือบ 2 พันลบ. ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิถึง 2.1 พันลบ. และ Long Index Future เล็กน้อย 2.4 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้: เราคาด SET Index ยังอยู่ในช่วงแกว่งตัว Sideways Down หลังหลุดต่ำกว่าระดับ 1,530 จุดอีกครั้งในสัปดาห์ก่อน ปัจจัยกดดันยังอยู่ที่สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ยังไม่มีสัญญาณดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้การประชุมศบค.วันนี้คาดว่าขยาย Lockdown ออกไปถึงสิ้นเดือน ส.ค. แต่อาจมีการผ่อนคลายบางกิจกรรม โดยร้านค้าในห้างสรรพสินค้า ส่วนวันนี้ต้องติดตามตัวเลข GDP ไทย 2Q21 ซึ่งตลาดคาด -1.4% Q-Q, +6.4% Y-Y ส่วนแนวโน้ม 3Q21 คาดหดตัว Q-Q ซึ่งเป็น Technical Recession นอกจากนี้ต้องติดตามประเด็นการเมืองมากขึ้น ทั้งการชุมนุมและการพิจารณางบประมาณปี 2022 วาระ 2-3 กลยุทธ์ระยะกลาง-ยาวยังเน้นสะสมหุ้น Domestic และ Reopening Play ช่วงตลาดปรับฐานบริเวณ 1,500 จุดและ 1,470 จุดตามลำดับ ส่วนระยะสั้นยังเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่ถูกกระทบจากการ Lockdown จำกัด ได้แก่ กลุ่มการแพทย์ และโดยเฉพาะกลุ่มส่งออกอย่างอิเล็กทรอนิกส์ขนส่ง (เรือ) และยานยนต์

กลยุทธ์: เก็งกำไรเป็นรายตัวที่มีประเด็นบวก // สะสมหุ้น Domestic เพิ่มบริเวณ 1,500 +- จุดหุ้นเด่นเดือน ส.ค. : BCPG, EKH, ORI, SONIC, TTA

หุ้นเด่นวันนี้: NSL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 19 บาท
  • กำไร 2Q21 ดีกว่าคาด +20% Q-Q, +123% Y-Y ทำ New High จากอานิสงส์ของ WFH หนุนแซนด์วิชอบร้อนขายดีในบริการ Delivery ของ 7-11 ส่วน Gross Margin ทำจุดสูงสุดใหม่ได้เช่นกัน
  • แนวโน้ม 2H21 คาดยังโตได้ต่อเนื่องจากการ Lockdown ที่ลากยาว เราคาดกำไรปี 2021-2022 +49%Y-Y และ +21% Y-Y ตามลำดับ ราคาหุ้นปรับฐานแรงสัปดาห์ก่อนเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนอีกครั้ง
  • แนวรับ 16 บาท แนวต้าน 17 // 17.40 บาท

Fund Flow: เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่นต่อเนื่องอีก US$3,092 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$2,228 ล้านและ US$929 ล้าน ตามลำดับ แต่ตลาดอาเซียนส่วนใหญ่เม็ดเงินไหลเข้านำโดยไทย US$65 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออกจากค่าเงินสกุลเอเชียที่ยังค่อนไปในทิศทางอ่อนค่า และกระแสคาดการณ์ว่า FED จะเริ่มทยอยลด QE ปลายปีนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) กำไรปกติ 2Q21 ที่ประกาศแล้วโดยรวมใกล้เคียงคาด Flat Q-Q, +96%Y-Y กลุ่มที่ดีกว่าคาด ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง การแพทย์ ปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า สื่อสารฯ ต่ำกว่าคาด ได้แก่ พลังงาน ค้าปลีก โรงแรม

(+) CBG กำไร 2Q21 +38%Q-Q, +10%Y-Y แข็งแรงตามคาดจากยอดขายที่ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตามแนวโน้ม 3Q21 คาดชะลอลงจากการบริโภคที่ชะลอ และ Lockdown ในไทยและ CLMVV เราคาดกำไรปี 2021 มี Downside ราว 10% ปัจจุบันยังคงราคาเป้าหมายที่ 185 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(0) GULF กำไร 2Q21 ต่ำกว่าคาด -14%Q-Q, -23%Y-Y จากนั้นผลของ INTUCH ที่หายไป และขาดทุนจาก BKR2 อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2 เท่าตัวใน 2H21 จาก High Season ของ SPPs และ IPPs รวมถึงปันผลจาก INTUCH ที่เพิ่มหลังเข้าถือหุ้น 42.3% ยังคงราคาเป้าหมาย 47 บาท แนะนำ“ ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) TACC กำไร 2Q21 +16%Q-Q, +13%Y-Y ทำ New High ตามคาด จาก All Cafe ที่ขายดีในช่วง WFH ส่วน Margin เร่งตัวขึ้นแนวโน้ม 3Q21 คาดทรงตัวถึงปรับขึ้นโดยมีผลกระทบบางส่วนจากคลังสินค้าของลูกค้ารายใหญ่ที่ชะงักชั่วคราว แต่ 4Q21 คาดกลับมาโดดเด่นยังคงคาดกำไรปี 2021-2022 +18% Y-Y และ +12%Y-Y ตามลำดับ คงราคาเป้าหมาย 8.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) RBF กำไร 2Q21 +44%Q-Q, Flat Y-Y ต่ำกว่าคาด จากฝั่ง Margin แต่คาดเป็นจุดต่ำสุดของปีและจะฟื้นตัวใน 2H21 โดยไม่ต้องรับรู้ขาดทุนโรงแรมแล้วและคาดลูกค้าทยอยออกสินค้าใหม่ใน 4Q21 เราปรับลดกำไรปี 2021-2022 ลงเป็น + 8%Y-Y และ +77%Y-Y ตามลำดับ ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 21 บาท แต่ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) SISB กำไร 2Q21 -7%Q-Q แต่โตหลายเท่าตัว Y-Y จากฐานต่ำ โดยถูกกระทบจากการเรียน Online ส่วนแนวโน้ม 3Q21 คาดชะลอต่อจากมาตรการ Lockdwon และการปรับลดค่าเทอม แต่กระทบกำไรปีหน้าไม่มากการฟื้นตัวคาดทยอยเกิดขึ้นใน 4Q21 เป็นต้นไป ยังคงราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 12.40 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) Paw กำไร 2Q21 ดีตามคาด +5%Q-Q, +782%Y-Y ตามภาคยานยนต์ทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนและโรงงานที่จีนฟื้นแนวโน้ม 2H21 คาดดีขึ้นต่อเนื่องจากการปรับราคากับผู้ซื้อตามต้นทุนเม็ดพลาสติกที่สูงขึ้น เราปรับกำไรปี 2021-2024 ขึ้นเป็น +25% CAGR ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.50 บาท ยังแนะนำ  ซื้อ”

(+) UPA ขาดทุนปกติ 2Q21 4 ลบ. สูงกว่าคาด จากดอกเบี้ยจ่ายและรายจ่ายพิเศษ แต่ภาพรวม 1H21 ดีขึ้นมากจาก 1H20 เพราะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นทั้งไทยและเวียดนาม ยังคาดทั้งปี 2021 พลิกกำไร 16 ลบ. และระยะยาวมองบวกจากธุรกิจกัญชงของ GTG คงราคาเป้าหมาย 0.60 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 15.53 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 35,515.38 จุด หนุนจากการปรับขึ้นของหุ้น Walt Disney หลังเปิดเผยกำไรดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี ถูกจำกัดจากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับลงเป็น 70.2 เดือนส.ค. จาก 81.2 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัวที่ 81.2

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง และข่าวควบรวมกิจการในยุโรป

(-) ตลาดเอเชียปรับลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับจํานวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในหลายประเทศที่สูงขึ้น

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอยู่ที่บริเวณ 33.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 65 เซนด์หรือ 0.9% ปิดที่ 68.44 ดอลลาร์/บาร์เรลหลัง IEA เผยว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตากระทบอุปสงค์น้ำมัน พร้อมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2021 เป็น 5.3 ล้านบาร์เรล/วัน จาก 5.4 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ปรับเพิ่มปี 2022 เป็น 3.2 ล้านบาร์เรล/วัน จาก 3 ล้านบาร์เรล/วัน

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 26.4 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 1,778.2 ดอลลาร์/ออนซ์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังเปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลงกว่าคาด

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,021.79 /-1.75

- Advertisement -