TACC แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 9.00 บาท

lmpact

ผลการดำเนินงานใน 2Q64 ออกมาน่าพอใจ

กำไรสุทธิของ TACC ใน 2Q64 ออกมาดีเกินคาดที่ 54 ล้านบาท (+12.8%YoY, +15.4% QoQ) โดยกำไรสุทธิใน 2Q64 และ 1H64 คิดเป็น 25.6% และ 47.7% ของกำไรปีนี้ของเรา โดยผลประกอบการออกมาดีกว่าประมาณการของเราที่ 50 ล้านบาทอยู่ 8.0% (ไม่มี consensus) เนื่องจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งเกินคาด ทั้งนี้ยอดขายและรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 352 ล้านบาท (+9.5% YoY,  8.2% QoQ) ในขณะที่ต้นทุนขายและการให้บริการอยู่ที่ 215 ล้านบาท (+1.7%YoY, +3.2%QoQ) อัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งมากที่ 38.9% ซึ่งดีกว่าที่เราคาดไว้เนื่องจาก i) ยอดขายสินค้าที่มี margin สูงเพิ่มขึ้น (ยอดขายของ All Cafe คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของยอดขายรวม) และสินค้าที่ขายมีขนาดใหญ่ขึ้น (จาก 16 oz. เป็น 22 oz.) ii) ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน (วัตถุดิบ, logistic และการขยายสาขาร้าน 7-Eleven อย่างต่อเนื่อง) และ iii) ยอดขายเครื่องดื่มสูงตามฤดูกาลในฤดูร้อน ดังนั้นผลประกอบการของ TACC จึงดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จาก margin ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจาก product mix ดีและการใช้กลยุทธ์บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

แนวโน้มธุรกิจในปี FY64-65 ยังคงเป็นบวก

เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มธุรกิจของ TACC ทั้ง B2B และ B2C แม้ว่า COVID-19 จะยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ปัจจัยลบเกิดขึ้นมาตลอดทั้งปี แต่ผลการดำเนินงานของ TACC ยังคงแข็งแกร่ง สำหรับในระยะต่อไปปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนกำไร ได้แก่ i) การผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 ใน 4Q64 และ ii) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชง บริษัทตั้งเป้าจะออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสุขภาวะภายใน 2H64 หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากอย. ซึ่งจะทำให้กำไรมี upside เพิ่มอีก

คงประมาณการกำไรปี FY65 เอาไว้เท่าเดิม

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564F เอาไว้ที่ 211 ล้านบาท (+11.95%YoY) และปี 2565F ที่ 239 ล้านบาท (+13.6%YoY)

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2565 ไว้ที่ 9.00 บาท (อิงจาก P/E ที่ 22.8x เท่ากับค่าเฉลี่ย-0.5 S.D.)

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง