บล.เคจีไอ:
C.P. All ต้องปรับตัว
Event
ประชุมนักวิเคราะห์
Impact
สถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยกดดันผลการดำเนินงานใน 3Q64
เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันไม่เอื้ออำนวย (ต้องลดเวลาเปิดร้านโดย 70% ของสาขาทั้งหมดต้องปิดบริการในช่วงกลางคืน, มีข้อจำกัดด้านการเดินทาง, กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง) เพราะ COVID-19 ทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อจะยังคงถูกกดดันในไตรมาสท่ีสาม (ภาวะตลาดจะแย่ลงไปยิ่งกว่าใน 2Q64) การท่ี CPALL ยังคงใช้กลยุทธ์ O2O อย่างเช่น บริการ 7-Eleven delivery, All online และ 24 Shopping แต่ยังช่วยชดเชยผลกระทบด้านลบไปได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้น เราจึงคิดว่า SSSG ไม่น่าจะเป็นบวกใน 3Q64 อย่างไรก็ตามต้นทุนทางการเงินที่ลดลงใน 3Q64 จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงในภาวะที่ยอดขายมีแนวโน้มจะลดลง ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของ CPALL ใน 2Q64 เพิ่มข้ึนเป็น 3.5 พันล้านบาท (+79%YoY and +22%QoQ) เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายท่ีเกิดข้ึนเพียงคร้ังเดียว (ประมาณ 600 ล้านบาท) ซึ่งเกิดจากเงินกู้ bridging loan (เพื่อทำดีลซื้อ Lotus)
เข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวโยงกัน และการยุบเลิกบริษัทลูก
คณะกรรมการของ CPALL อนุมัติแผนปรับโครงสร้างการลงทุนใน ALL NOW Management Co., Ltd (บริษัทลูกของ CPALL ที่ทำธุรกิจบริการท่ีเก่ียวข้องกับการบริหาจัดการโกดังสินค้า, logistics และค้าขายสินค้าปกติ) ด้วยการขายหุ้น 90% ของทุนจดทะเบียน (มูลค่าไม่เกิน 2.3 พันล้านบาท) ซึ่งคาดว่าจะทำธุรกรรมเสร็จเรียบร้อยใน 4Q64 นอกจากน้ี คณะกรรมการยังอนุมัติให้เข้าลงทุนใน EGG Digital Co., Ltd ในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของทุนจดทะเบียน มูลค่าไม่เกิน 68 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำธุรกรรมเสร็จใน 4Q64 ทั้งน้ี ขนาดของธุรกรรมยังไม่เข้าข่ายที่บริษัทจะต้องเปิดเผยวัตถุประสงค์ตามประกาศ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูล และการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 66 บาท อิงจาก PER ที่ 33.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของ Siam Makro (MAKRO.BK/MAKRO TB) และ CPALL +0.5 S.D.)
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาใหม่ได้ช้ากว่าแผนที่วางไว้, disruption จากเทคโนโลยีใหม่, ถูกยกเลิกการใช้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven, ความเสี่ยงด้าน logistic