สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงในช่วงเช้า แต่สามารถยืนในแดนบวกช่วงท้ายตลาด โดยในช่วงเช้ามีแรงขายเข้ามามากในหุ้นกลาง-เล็ก แต่ในช่วงบ่ายมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้น Big Cap. แม้มีปัจจัยลบจากการขยายเวลาล็อคดาวน์จนถึง 31 ส.ค. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,531.24 จุด +2.92 จุด +0.19% มูลค่าการซื้อขาย 77,167 ลบ.ต่างชาติ +1,433.42 ลบ. TFEX -6,242 สัญญา ตราสารหนี้ -825.96 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด +110.02 จุด + 0.31% ดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 นลท.เข้า ซื้อหุ้น defensive stocks เช่น หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค และกลุ่มสาธารณูปโภค นลท.จับตารายงานผล ประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้

+ ศบค.ให้จัดหาวัคซีนไฟเซอร์ 10 ล้านโดส-ซิโนแวค 12 ล้านโดส ป้องกันสายพันธ์ุเดลตา และอนุญาตให้เปิด ธนาคารหรือสถาบันการเงินในห้างสรรพสินค้าได้เพิ่มเติม

+ สภาพัฒน์เปิดเผย GDP 2Q64 ขยายตัว 7.5%YoY เมื่อเทียบกับ 2Q63 ท่ีติดลบถึง 12.1% ปรับตัวดีข้ึนจาก การลดลง 2.6% ใน 1Q64 ขณะที่ตลอดปี 64 คาด ขยายตัว 0.7-1.2% แม้ลดลงจาก 1.5-2.5% ในการ ประมาณการคร้ังก่อน แต่ถือเป็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากการติดลบ 6.1% ในปี 63

+ สรุปสถานการณ์ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในช่วงเวลา 1-31 ก.ค.ท่ีผ่านมา พบมีนักท่องเท่ียวสะสม 14,055 คน มีคน ติดเชื้อท้ังคนไทยและต่างประเทศ 441 คน ซึ่งมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 829 ล้านบาท ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนที่ก่อให้เกิดรายได้ทางเศรษฐกิจ 1,925 ล้านบาท

ปัจจัยลบ

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.15 ดอลลาร์ -1.7% ปิดที่ 67.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจท่ีอ่อนเกินคาดจากผลกระทบของภาวะน้ำท่วมและการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19

– เศรษฐกิจจีนยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดคร้ังใหม่ของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งภัยพิบัติน้ำท่วม และรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในหลายเมือง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาคบริการของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการเดินทางและโรงแรม

– สนพ.ประเมินการใช้พลังงานขั้นต้นของไทยปี 2564 ทั้งปีโตแค่ 0.1% ผลกระทบโควิด-19 ยังแรง ชี้การใช้พลังงานอื่นเพิ่มขึ้น ยกเว้นน้ำมันลดลง 5.5% ขณะที่ครึ่งปีแรกการใช้พลังงานขั้นต้นเพิ่มขึ้น 2.8%

– ธปท. เปิดเผยว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้รายได้ครัวเรือนหายไป และเกิดหลุมรายได้จากประเมินตั้งแต่ปี 63-65 รวม 3 ปี รายได้ครัวเรือนจะหายไปถึง 2.6 ล้านล้านบาท ทำให้เงินภาครัฐที่มีอยู่ในปัจจุบันคงไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องเพิ่มแรงกระตุ้นทางการคลัง

– ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันน้ี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 20,128 มีผู้เสียชีวิต 239 ราย รักษาหาย 20,791 ราย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน แม้ตลาดจะเริ่มเกิด Technical Rebound แต่ยังถูกกดดันจาก สถานการณ์การเมืองในประเทศ และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังอยู่ในระดับสูง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,540 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• Defensive Stock ADVANC TTW EASTW BGRIM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก WFH ADVANC DTAC TRUE DIF ITEL NETBAY YGG AS INSET

หุ้นรายงานพิเศษ

CPF – “กำไร 2Q64 สูงกว่าคาดแต่แนวโน้ม 3Q64 อ่อนตัว”(Bloomberg Consensus 34)

  • รายงานกำไร 2Q64 ท่ี 4.7 พันลบ. ดีกว่าที่ตลาดคาด 12% หดตัว 21%YoY และหดตัว 32%QoQ เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL และ CPH ลดลง 830 ลบ. และมีผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ (สุกร) ราว 1,487 ลบ. ตามราคาหมูที่ลดลง นอกจากนี้มีการเปลี่ยนการบันทึกบัญชีบริษัท CPI (CP China Investment) ซึ่งเป็นบริษัทอาหารสัตว์ท่ีจีนจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วม ท้ังนี้บริษัทรายงานกำไร 1H64 ท่ี 1.41 หมื่นลบ. หดตัว 20.7% เนื่องจากรายได้จากการขายเงินลงทุนลดลง 1 พัน ลบ. และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง 1.5 พัน ลบ.
  • ความเห็น เรามุมมองเชิงลบต่อผลประกอบการ 3Q64 เนื่องจากราคาหมูในไทยและเวียดนามมีโอกาสอ่อนตัวลงจากอุปสงค์ที่ลดลงจากการล็อกดาวน์ ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นตามราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลือง  อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับตัวลงราว 10% จากเดือน พ.ค. ซึ่งรับข่าวเชิงลบไปแล้ว แต่ด้วย Outlook ท่ียังอ่อนตัวจึงแนะนำ “Wait & See”

หุ้นมีข่าว

(+) RBF (Bloomberg Consensus 22.00 บาท) ประกาศดีลใหญ่กับบริษัทในเครือโอสถสภา หรือ OSP เซ็นสัญญาส่ังซื้อขายน้ำมันเมล็ดกัญชง เพื่อนำผลิตสินค้ากลุ่มความงามและดูแลร่างกาย พร้อมแง้มมีลูกค้าจองคำสั่งซื้อสารสกัด CBD-THC เข้ามาอีก 6-7 เจ้า ส่วนงบครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 182.97 ล้านบาท ลดลง 28.60% เหตุต้นทุนวัตถุดิบราคาสูงขึ้น ย้ำรายได้ปีน้ีโตตามเป้า 10-12% (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) NRF (Bloomberg Consensus 10.23 บาท) ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 66 ทะยาน 4,000-5,000 ล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 3,000 ล้านบาท หลังรายได้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น อัด 2,000 ล้านบาท ลุยลงทุน 2 ปี ย้ารายได้ปีนี้โต 50% แย้มไตรมาส 3/64 สดใส รับบาทอ่อน-ส่งสินค้าเพิ่มข้ึน ส่วนธุรกิจกัญชงเล็งขาย CBD ไตรมาส 1/65 ขณะที่โรงงาน Plant-based Food ร่วมทุนปตท.เริ่มผลิต Q3 ปีหน้า (ที่มาข่าวหุ้น)

(+) ACE (Bloomberg Consensus 4.51 บาท) กกพ.ใกล้ประกาศโรงไฟฟ้าชุมชน ACE รับมีลุ้นมากสุด หลังผ่านเกณฑ์ 29 โครงการ พร้อมจ่อได้ PPA ขยะ ขณะที่งบไตรมาส 2 ศักยภาพดีกำไรโต 46.7% ผู้บริหารชี้ครึ่งหลังแนวโน้มดี โรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP คลองขลุงเปิดปีน้ี ชี้รัฐหนุนพลังงานหมุนเวียนเป็นเรื่องดี พร้อมรุกทุกโครงการโรงไฟฟ้าสะอาด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ORI (Bloomberg Consensus 10.50 บาท) ผนึกกำลังยักษ์อสังหาญี่ปุ่น “โนมูระ เรียลเอสเตท” ร่วมลงทุนเพิ่มอีก 1 โครงการ เจาะตลาดคอนโดกลุ่มคน Gen Y และสตาร์ทอัพแบรนด์ใหม่ล่าสุด “ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น” มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ดันมูลค่าโครงการร่วมทุนแตะ 3.55 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

18-20 ส.ค. สภาผู้แทนราษฎรพจิารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วาระ 2-3

สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณชิย์แถลงตัวเลขการ ส่งออก-นำเข้า สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

24 ส.ค. ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที่ 5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม 31 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

17 ส.ค.อียูรายงาน GDP ไตรมาส 2

สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน มิ.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ส.ค

18 ส.ค. อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค. สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ามันรายสัปดาห์

(เช้าวันที่ 19 ส.ค.) FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 27-28 ก.ค.

19 ส.ค.สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือน ส.ค.

20 ส.ค.ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

26-28 ส.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จัดการประชุม ประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง

- Advertisement -