Our View? “อยู่ในขั้นตอนพยายามสร้างฐาน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,525/1,515 และแนวต้านที่บริเวณ 1,540/1,550 คาดตลาดยังคงได้รับวิตวิทยาเชิงลบจากตลาดต่างประเทศกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอ หลังเมื่อวานนี้ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมของจีนออกมายยายตัวเพียง 6.4% ต่ำกว่าที่ตลาดคาด และชะลอตัว 5 เดือนติดต่อกัน หลังได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจากน้ำท่วม บ่งชี้แนวโน้มการชะลอตัวของภาคการผลิต ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจจีน เรามองยังกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่

ขณะที่ตลาดยังคงอยู่ในภาวะ Risk-off เพื่อรอดูผลการประชุมประจำปีที่เมือง Jackson Hole ส่วนวันที่ 26-28 ส.ค. นี้คาด FED จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) คาดหาก FED ส่งสัญญาณดังกล่าว จะมีผลต่อกระแสเงินทุนส่วนเกินเริ่มลดลง ในส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 1.2567% อีกครั้ง สะท้อนกระแสเงินทุนกลับเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อรอดูผลการประชุมดังกล่าว

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.25 ดอลลาร์/บาร์เรล (-1.68%) หลังปรับตัวลดลงไปถึง 65.73 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวันแล้วสามารถดีดตัวกลับขึ้นได้ โดยยังคงได้รับแรกดดันจากการซะตัวลบของภาคการผลิตอุตสาหกรรมของจีนเช่นกัน รวมทั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Delta อย่างไรก็ตาม เราคาดราคาน้ำมันปรับตัวรับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปบ้างแล้วบางส่วน คาดจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นได้ในระยะสั้นช่วย จำกัด Downside ของหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเป็นกลางต่อการที่เมื่อวานนี้สภาพัฒน์เปิดเผย GDP ไตรมาส 2 ของไทย + 7.5% (YoY) + 0.4% (QoQ) มากกว่าที่ตลาดคาด แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยทั้งปีนี้ลงเหลือ 0.7 1.2% จากเดิมคาดการณ์ที่ 1.5-2.5% จากการได้รับผลกระทบของ COVID-19 ขณะที่คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเริ่มลดลงในช่วงเดือน ก.ย. ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4

อย่างไรก็ตามเรามีมุมมองเชิงบวกอ่อนๆ ต่อการที่เมื่อวานนี้ที่ประชุมสบค. แม้ยังขยายมาตรการ Lockdown ไปจนถึง 31 ส.ค. ซึ่งเรามองว่าตลาดในปัจจุบันรับรู้แนวโน้มการขยายมาตรการดังกล่าวออกไปจนถึงช่วงสิ้นเดือน ก.ย. ก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการโดยอนุญาตให้ธนาคาร/สถาบันการเงินสามารถกลับมาเปิดบริการในห้างสรรพสินค้าได้ มองเป็นสัญญาณการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เบื้องต้นคาดจะช่วยลดความกังวลจากตลาดได้บ้างในระยะสั้น

ธีมการลงทุน

ยังคงสามารถ “ถือ-ทยอยซื้อสะสม” หุ้นในกลุ่ม

“Export Theme” ได้แก่ KCE, HANA และ DELTA

“Health Care Theme” ได้แก่ BCH และ CHG

“Power Theme” ได้แก่ GPSC, GULF และ BGRIM

ขณะที่สามารถ “เก็งกำไร”

“Logistics Theme” ได้แก่ TTA, PSL, WICE, JWD, III, KEX และ RCL

“Coals Theme” ได้แก่ BANPU และ LANNA

หุ้นแนะนำวันนี้

“KEX” แนวรับ 42.25 / 41.25 Target 45.00 148.00 Stop <39.35

- Advertisement -