บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Synnex (Thailand) (SYNEX) กําไร 2Q64 ดีกว่าคาด
TP Revision
ประเด็นการลงทุน
ผลประกอบการ 2Q64 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด 11% จากประเมินว่าจะทรงตัว QoQ ด้วยอัตรากำไรที่สูงขึ้นกว่าคาด ขณะภาพในครึ่งปีหลังแนวโน้มกำไรจะรักษาฐานจากอุปสงค์ที่ยังแกร่ง จนถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ที่จะเร่งกำไรอีกครั้ง ทั้งนี้ บริษัทได้เสริมกลยุทธ์ด้วยการหาโอกาสเข้าลงทุนใน Startup ที่จะเข้าเสริม Ecosystem ในอนาคตจะเป็น Upside risk จากประมาณการกำไรในปี 2564-65 ที่เราปรับขึ้นเฉลี่ย 10% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมา +60% YTD สะท้อนภาพผลประกอบการ แม้เราปรับใช้ราคาเหมาะสมสำหรับปี 65 ที่ 25.40 บ./หุ้น อิง P/E 25 เท่า ณ ค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปี +3SD จึงคงคำแนะนำ ถือ
กำไรสุทธิ 2Q64 เท่ากับ 211 ลบ. +14%QoQ, +27%YoY
ในงวด 2Q64 บริษัทมีรายได้การขาย 8.4 พันลบ. -3%QoQ, -4%YoY อ่อนตัวลงตามยอดขายสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ Apple และ Android รุ่นอื่นที่เปิดตัวน้อยในไตรมาส อย่างไรก็ดี กลุ่ม PC, Notebook และสินค้า IT อื่นยังมีอุปสงค์ที่แข็งแรงหนุนทั้ง WFH, Cryptocurrency, Gaming แม้สถานการณ์สินค้าขาดตลาดยังใกล้เคียงไตรมาสก่อน ขณะในแง่ GPM 4.81% ดีขึ้นกว่าตลาดคาดราว 100 bps จาก Product mix ที่ดีขึ้นสัดส่วนมือถือลดลง) และการต่อรองที่ลดลงขณะ SG&A/Sale 2.52% ระดับใกล้เคียงเดิมทำให้ NPM สูงขึ้น +38bps เท่ากับ 2.52%
แนวโน้มกำไรรักษาระดับในครึ่งปีหลังปรับกำไรขึ้น 9-13%
ภาพรายได้และกำไรใน 3Q64 ทรงตัวเทียบ QoQ สินค้ากลุ่ม PC ยังแข็งแรงตามคำสั่งซื้อคงค้างที่ต่อเนื่องไปถึงปลายปี ก่อนที่กำไรจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง QoQ ใน 4Q64 จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ทั้ง iPhone 13 (5G) iPad iWatch และอื่นๆ เป็นปัจจัยหนุนยอดขายสำหรับตลาดระดับกลาง-บน ที่เชื่อว่ายังมีศักยภาพในแง่กำลังซื้อ นอกจากนี้ บริษัทได้เข้าลงทุน 60% ใน Startup ‘SWOPMART’ เพื่อพัฒนาและให้บริการ e-commerce platform สำหรับการซื้อขายสินค้า IT, สมาร์ทโฟนมือสองที่มีมูลค่าตลาด 5 หมื่นลบ. ต่อปีวางงบลงทุนราว 100 ลบ.
สอดคล้องกับกำไรสุทธิใน 1H64 ที่ทำได้สูงถึง 396 ลบ. +33% YoY เราจึงปรับประมาณการยอดขาย +5% และ GPM +200bps ที่ 4.5% ดีขึ้นตามส่วนลดสินค้าที่ลดลง ทำให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564-65 เพิ่มขึ้น 9-13% อยู่ที่ 813/860 ลบ. +27/+6%YoY ตามลำดับ
คงคำแนะนำ ถือ ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2565 เท่ากับ 25.40 บาท
แม้เราปรับราคาเหมาะสมสำหรับปี 2565 ขึ้นเป็น 25.40 บ./หุ้นโดยอิง P/E 25 เท่า (5Yr-Average P/E +3SD) ใกล้กับกรอบล่างของกลุ่มค้าปลีก ยังคงดูสูงเทียบกับการเติบโตกำไรเฉลี่ย (CAGR) 16% ในสองปีข้างหน้า และมี Upside เหลือราว 4% เราคงคำแนะนำ ถือ โดยความสำเร็จจากการกลยุทธ์การลงทุนในบริษัทใหม่เป็นส่วนเพิ่มของประมาณการที่น่าติดตามในปีหน้า บริษัทประกาศจ่ายปันผล 1H64 0.18 บ./หุ้น เทียบได้กับอัตราปันผล 2% ต่อปี