บล.โกลเบล็ก:

SAINTMED PLC. (SMD) เพิ่มคาดการณ์กำไรปี 64 หลัง COVID-19 แพร่ระบาดต่อเนื่อง

  • SMD ผู้เช่ียวชาญผลิตภัณฑ์การแพทย์ด้านเวชบำบัดวิกฤตและการช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับ
  • ประเทศไทยเร่ิมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2565
  • รายงานกำไร 2Q64 ท่ี 66 ลบ.เติบโต 725%QoQ และ 113%YoY
  • ปรับเพิ่มประมาณการรายได้และกำไรปี 64 สู่ 991 ลบ. และ 132 ลบ. ตามลำดับ
  • ปรับเพิ่มประมาณการรายได้และกำไรปี 65 สู่ 1,091 ลบ. และ 142 ลบ. ตามลำดับ
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 65 ที่ 17.50 บาท

ประเด็นสำคัญในการลงทุน:

  • SMD ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์การแพทย์ด้านเวชบำบัดวิกฤตและการช่วยหายใจ และเวชศาสตร์การนอนหลับ: ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมีการนำเข้าเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากผู้ผลิตมากกว่า 30 ราย จากหลากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ เยอรมนี ออสเตรเลีย สวิสเซอร์แลนด์ และจีน โดยสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์ได้ 6 กลุ่มคือ 1) สินค้าด้านเวชบำบัดวิกฤต 2) สินค้าด้านการช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับ 3) สินค้าด้านหทัยวิทยา 4) เครื่องมือแพทย์ทั่วไป 5) สินค้าสมาร์ท ฮอสพิทอล และ 6) ผลิตภัณฑ์อื่นโดยมีสัดส่วนรายได้ปี 63 ที่ 40.2% 35.2% 11.6% 8.4% 4.2% และ 0.4% ตามลำดับ ท้ังน้ีบริษัทมีรายได้จากการขายและกำไรสุทธิปี 2561-2563 อยู่ที่ 494.3-645.6 ลบ. และ 30.5-77.8 ลบ. ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย CAGR เฉลี่ย 2 ปีที่ 14% และ 60% ตามลำดับ
  • ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2565: สานักงานสถิติแห่งชาติคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวในปีพ.ศ.2565 และในปีพ.ศ. 2573 จะมีสัดส่วนประชากรสูงวัยเพิ่มข้ึนอยู่ที่ร้อยละ 26.9 ของประชากรท้ังประเทศที่ 67.2 ล้านคนหรือคดิเป็นจำนวนผู้สูงอายุราว 18 ล้านคน ซึ่งผู้สูงอายุมีแนวโน้มเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลสูงกว่าวัยหนุ่มสาว นอกจากนี้กระทรวงสาธารณะสุขเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายปี 2564 อยู่ที่ 1.46 แสนลบ.เติบโต 11.2% จากปี 2560 เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์
  • รายงานกำไร 2Q64 ท่ี 66ลบ.เติบโต 725%QoQ และ 113%YoY: รายได้เติบโตสู่ 329 ลบ. +113%QoQ และ +86%YoY โดยได้แรงหนุนจากสินค้ากลุ่มเวชบำบัดวิกฤตและกลุ่มการช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่จำเป็นต่อการรักษาโรค COVID-19 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 40.6% ใน 1Q64 สู่ 42.1% ใน 2Q64 เนื่องจากสินค้ามีความต้องการสูง ช่วยหนุนให้ราคาจำหน่ายปรับตัวขึ้น ด้านอัตราค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารต่อยอดขายปรับตัวลงจาก 30.3% ใน 1Q64 สู่ 16.6% ใน 2Q64 เนื่องจากมีความต้องการในสินค้าสูง ทำให้ใช้งบการตลาดลดลง ส่งผลให้บริษัทมีกำไร 2Q64 ที่ 66 ลบ. เติบโต 725%QoQ และ 113%YoY และรายงานกำไ ร 1H64 ท่ี 74 ลบ. คิดเป็น 83% ของประมาณการเดิม
- Advertisement -