บล.ทรีนีตี้:

ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล-MINT

การฟื้นตัวของกลุ่มโรงแรมใน EU ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

สรุปประเด็นสำคัญจากการประชุม

  • ผลประกอบการของกลุ่มโรงแรมคาดว่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาดการณ์ จากโรงแรมในยุโรปที่ระดับอัตราเข้าพักสูงขึ้นทุกเดือน และเริ่มเข้า High Season ในไตรมาส 3 โดยที่เดือน ก.ค.-ส.ค. 2564 มีอัตราการเข้าพักที่ 40% และ 60% ตามลำดับ และกลุ่มโรงแรมเริ่มมีผลประกอบการเป็นกำไรในมิ.ย. 2564 และคาดว่าผลประกอบการโดยรวมใน 3Q64 จะสามารถกลับเป็นกำไรได้โดยที่การฟื้นตัวของโรงแรมในยุโรปคาดว่าจะดีต่อเนื่องไปยัง 4Q64-1Q65 ซึ่งปกติจะเป็นช่วง Low Season ของกลุ่ม NH Hotel แต่คาดว่าจะมี Pent Up Demand ของทั้งกลุ่มท่องเที่ยวและ B2B ที่แข็งแรงขึ้น
  • การท่องเที่ยวใน Maldives และยุโรปสามารถฟื้นตัวได้ดี แม้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะยังไม่กลับมาโดยที่ Maldives ได้มีฐานลูกค้าใหม่เป็นชาว US, UK และ Russia เพิ่มมากขึ้น และเริ่มมี ADR ที่สูงขึ้นเกือบเทียบเท่าปี 2562 ในขณะที่กลุ่ม NH Hotel มีสัดส่วนลูกค้าชาวจีนเพียงแค่ 4% ส่งผลให้กลุ่มโรงแรมของ MINT มีการพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนต่ำ
  • กลุ่มร้านอาหารใน 3Q64 คาดว่าจะมีผลประกอบการอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากไทยนับเป็น 57% ของรายได้กลุ่มร้านอาหาร และใน 3Q64 ยังคงไม่สามารถ Dine In ได้ และยังต้องพึ่งพา Delivery เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ดี ประเทศจีนยังคาดว่าจะมีผลประกอบการดีต่อเนื่อง และสามารถเติบโตได้ Double Digits ส่งผลให้ยังสามารถมีกำไรได้ต่อเนื่อง
  • การขายสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ MINT มีเงินสดในมือที่ 2.7 หมื่นล้านบาทและมีระดับ IBD/E ลดลงมาอยู่ที่ 2.17X และ MINT ยังมีสินทรัพย์ที่มีโอกาสขายได้อีกมูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านบาท แต่การขายจะขึ้นอยู่กับมูลค่าที่สามารถตกลงกับผู้ซื้อได้ โดยการขายสินทรัพย์ของ MINT สามารถทำกำไรได้ทุกดีล

Comment

เรามีมุมมองเชิงบวก หลังจากการประชุมจากการฟื้นตัวของโรงแรมในยุโรปที่เห็นผลชัดเจน หลังจากที่ประชากรกว่า 70% ได้รับวัคซีน และการคลาย Lockdown ที่อนุญาตให้มีการเดินทางข้ามประเทศภายในยุโรปโดยที่ไม่ต้องกักตัวสำหรับผู้ที่รับวัคซีนครบโดส และ Pent Up Demand ของการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน และในแง่ของธุรกิจที่คาดว่าจะเริ่มมีการจัดงาน Fair เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ 4Q64 ที่ปกติชาวยุโรปจะเดินทางมายังเอเชีย แต่ใน 4Q64 เราคาดว่าการท่องเที่ยวจะอยู่ในยุโรปมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของ NH Hotel จะคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และกลุ่มร้านอาหารที่มี EBITDA Margin ปรับตัวสูงขึ้น และ SSSG ของจีนและออสเตรเลียยังเป็นบวกอยู่ เรายังคงแนะนำ “Trading” และที่ราคาเป้าหมาย 34.70 บาท

- Advertisement -