บล.เคจีไอ:

BTS Group Holdings กรณีพิพาทสายสีส้มมีความชัดเจนแล้ว

Event

สรุปผลประกอบการ 1Q65 (เมษายน-มิถุนายน 2564)

lmpact

ผลการดำเนินงานใน 1Q65 ยังคงแข็งแกร่ง
กำไรสุทธิของ BTS ใน 1Q65 อยู่ที่ 1.38 พันล้านบาท (+211.9% YoY, -17.8% QoQ) โดยมีกำไรพิเศษ 381 ล้านบาท รายได้ใน 1Q65 ลดลง 17.3%YoY เหลือ 8.07 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการให้บริการลดลงจากงาน E&M และบริการจัดหาขบวนรถสำหรับสายสีเขียวส่วนต่อขยายเนื่องจาก BTS เข้าสู่ช่วงท้ายของการพัฒนาโครงการแล้ว ทั้งน้ีรายได้ที่ลดลงดังกล่าวถูกชดเชยโดยรายได้ O&M ที่เพิ่มข้ึน 35%YoY เป็น 1.56 พันล้านบาทจากการเปิดบริการสายสีเขียวส่วนต่อขยายเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 สำหรับใน 1Q65 โครงสร้างรายได้ของ BTS แบ่งเป็น Move 90%, Mix 8% และ Match 2% ในขณะที่กำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q65 คิดเป็น 33.9% ของประมาณการกำไรปีน้ีของเราท่ี 2.95 พันล้านบาท

กรณีพิพาทสายสีส้มมีความชัดเจนขึ้นแล้ว

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีในข้อหาที่ BTS ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เกี่ยวกับการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งเราคิดว่าเป็นสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นสำหรับการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบใหม่ใน 2H64 สำหรับในช่วงต่อไป BTS จะยังคงเข้าร่วมการประมูลอย่างแน่นอน โดยคาดว่าจะมีการร่าง TOR ใหม่ในเดือนกันยายน หลังศาลปกครองมีการจำหน่ายคดีฟ้องร้องออกจากสารบบ รอให้ กทม.ชำระหนี้ค้างรับ 3 หมื่นล้านบาท ผู้บริหารของ BTS ชี้แจงว่า บริษัทได้ยื่นเรื่องหนี้ค้างจ่ายของกทม. 3 หมื่นล้านบาทต่อศาลปกครองกลางตามกระบวนการของโครงการสายสีเขียวแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กทม. ตั้งตั้งงบมาชำระหนี้ก้อนดังกล่าว บริษัทไม่ห่วงเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของกทม. เนื่องจากกทม. มีสถานะทางการแข็งแกร่งโดยมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ AA+ ปัญหาสำคัญอยู่ที่กทม. ยังไม่เคยตั้งงบในส่วนนี้มาก่อน ในขณะที่คำสั่งศาลจะเร่งให้หน่วยงานรัฐแก้ไขปัญหา ยังคงประมาณการกำไรเอาไว้เท่าเดิม เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี FY65F เอาไว้ที่ 2.95 พันล้านบาท (-35.5% YoY) และปี FY66F ไว้ที่ 3.73 พันล้านบาท (+26.4% YoY)

Valuation & Action

ถึงแม้ว่าจะยังมีบางประเด็นเกี่ยวกับ BTS ที่ยังยังไม่ชัดเจน ได้แก่ i) การต่ออายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ii) หนี้ค้างรับ 3 หมื่นล้านบาทจากการให้บริการเดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยาย iii) การเดินหน้าประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม แต่เรายังคาดว่าประเด็นเหล่านี้น่าจะได้ข้อสรุปหลังจากนี้ ขณะที่โครงการสายสีเขียวเดิมจะหมดสัมปทานในปี 2572 ทั้งนี้ในระยะสั้นราคาหุ้นอาจจะถูกกดดันจากปัจจัยลบ แต่เราคิดว่าราคาหุ้นพร้อมที่จะปรับขึ้นต่อได้ในระยะยาวดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 12.60 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง

- Advertisement -