ตลาดหุ้นวันนี้

  • ลุ้นทดสอบ 1560 จุด: ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีลุ้นปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านใหญ่ที่ 1560 จุด แม่ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ชัดเจน แต่สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศเริ่มทรงตัว สร้างความหวังว่าเดือนก.ย.64 อาจเปิดเมืองได้อีกครั้ง ทำให้มีแรงเก็งกำไรกลับมาในหุ้นกลุ่มเปิดเมืองเปิดเมืองตั้งแต่สัปดาห์ก่อน กอปรกับสัปดาห์นี้มีงาน Thailand Focus 2021 ที่ได้ภาครัฐและเอกชนร่วมกันแสดงศักยภาพของเศรษฐกิจ และบริษัทหุ้นไทยให้แก่นักลงทุนสถาบันทั่วโลก ที่อาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยได้อีกครั้ง จึงมีลุ้น FundFlow ไหลเข้าอ่อนๆ อย่างไรก็ดี การประชุมประจำปีที่ Jackson Hole ของ Fed ในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับท่าทีต่อการทำ QE Tapering ของ Fed ยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่จะสง่ผลกระทบต่อการเคลื่อนย้าย Fund Flow ต่างชาติในระยะต่อไป
  • มุมมอง COVID-19 ในประเทศ: สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย แม้ทรงตัวที่มีผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ยราว 20,000 รายต่อวัน ซึ่งหากเทียบกับอัตราการตรวจหาเชื้อประมาณ 50,000 ราย ยังมี Positive Rate ที่สูงถึง 40% และจำนวนผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากแต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มพลิกกลับมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 7 และ 14 วัน สะท้อนว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในระบบเริ่มลดลง ขณะที่แต่อัตราการฉีดวัคซีนรายวันเพิ่ม ขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ย 14 วัน ประมาณ 365,000 โดสต่อวัน ซึ่งหากดำเนินการได้เร็วขึ้น ความหวังเปิดเมืองจะกลับมาลุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นในไตรมาสท่ี 4 ได้ ทั้งนี้ คาดหวังการกลับมาเปิดเมืองในเดือน ก.ย. 64 ท่ีอาจเร่ิมจาก “กรุงเทพฯ” ทางฝ่ายมองว่าอาจใช้โมเดล “Bangkok Sandbox” โดยทยอยเปิดกิจการ กิจกรรมต่างๆ จากความเสี่ยงต่ำไปความเสี่ยงสูง คล้ายกับปีก่อน และอาจเปิดให้เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วออกมาใช้ชีวิตตามปกติได้ เนื่องจากกรุงเทพฯ มีประชากรที่ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วถึง 82.1% และส่วนใหญ่เป็นวัคซีน Astra Zeneca ด้านต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ยังฉีดต่ำกว่า 50%
  • การประชุม Fed ประจำปี: สัปดาห์นี้น่าจับตาการประชุมประจำปีของ Fed ที่เมือง Jackson Hole ระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค. 64 โดยประธาน Fed จะมีถ้อยแถลงเรื่องมุมมองเศรษฐกิจ และนโยบายทางการเงินในวันที่ 27ส.ค.64 คาดว่าน่าจะมีท่าทีที่ Hawkish มากขึ้น และอาจส่งสัญญาณการทำ QE Tapering ออกมา ซึ่งทางฝ่ายประเมินว่า Fed น่าจะรอดูข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่เพิ่มขึ้น แต่ยังห่างไกลจากเป้าหมายก่อนวิกฤติ COVID-19 ในช่วงเดือน ก.ย.และ ต.ค.64 ก่อนจะประกาศทำ QE Tapering อย่างเป็นทางการในการประชุม FOMC เดือน พ.ย.64 และจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ ธ.ค.64 เป็นต้นไป ขณะที่มุมมองของนักลงทุนทั่วโลกเริ่มคาดการณ์ว่า Fed อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 65 เป็นต้นไป ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสจะแข็งค่าขึ้นอีก หนุน Fund Flow ไหลออกจากตลาด Emerging Market

Picks of the day

SCC – BUY

  • หลายปัจจัยบวกช่วงนี้: ราคาน้ำมันลดลง ทำให้ต้นทุนนาฟทาลดลง ช่วยหนุนส่วนต่างราคาปิโตรเคมี และต้นทุนพลังงานในธุรกิจปูน/บรรจุภัณฑ์ ลดลงด้วย อีกทั้งสัดส่วนส่งออก 44% ได้ผลดี ค่าเงินบาทอ่อนลงด้วยมุมมองกำไร 2H64 ดีขึ้นกว่าช่วงต้น 3Q64
  • P/E ยังต่ำ: P/E ล่าสุด 9 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 14 เท่า และราคาหุ้นจะแปรผกผันกับราคาน้ำมัน

PSL – BUY

ดัชนี BHSI และ BSI ขึ้นต่อเนื่อง: ดัชนีขนาดเรือของ PSL ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำ new high ในรอบกว่า 10 ปี ส่งผลในการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ

2H64 กำไรจะโดดเด่นกว่า 1H64: 1H64 มีกำไร 1,201 ลบ. จากขาดทุน 1,300 ลบ. ใน 2H64 คาดกำไรจะโดดเด่นกว่า 1H64 จากดัชนี BHSI และ BSI (QTD) +38% และ +27% q-q และ +239% และ +226%y-y อีกทั้งได้ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า

- Advertisement -