บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

MK Restaurant (M) คาดหวังการฟื้นตัวได้ปลายปี

Results Review

ประเด็นการลงทุน

บริษัทรายงานขาดทุนใน 2Q64 ที่ -99 ลบ. (+60%YoY, -211QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราคาด จากการเริ่มเห็นผลกระทบของโควิดระลอก 3 และเริ่มกลับมาใช้มาตรการห้ามทานอาหารในร้านบางส่วน กดดันทั้งยอดขายและมาร์จิ้นบริษัท และคาดจะเห็นแนวโน้มการขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ ใน 3Q64 จากผลกระทบโควิดระลอก 4 และการใช้มาตรการล็อกดาวน์จากภาครัฐที่เข้มงวดขึ้น ทำให้เรามีการปรับประมาณกำไรปี 64-65 ลง 82% และ 19% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนภาพดังกล่าว แต่เรามองปัจจัยลบส่วนใหญ่ได้สะท้อนในราคาและมี Downside จำกัด ในเชิงราคาหุ้นแล้ว โดยมองเป็นจังหวะทยอยสะสม กับบริษัทที่มีสภาพคล่องแข็งแกร่งสามารถฝ่าวิกฤตไปได้ และอยู่ในหุ้นธีมเปิดเมืองที่จะเริ่มคาดหวังการฟื้นตัวได้ตั้งแต่ 4Q64 โดยเรายังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 58 บาท จากการปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 65 คงคำแนะนำ “ซื้อลงทุน”

ผลประกอบการ 2Q64 พลิกมาขาดทุน

แม้บริษัทจะมียอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ที่ +40%YoY แต่มาจากฐานที่ต่ำ Full lockdown ในปีก่อน โดย บริษัทมียอดขายหดตัว -19%QoQ ถูกกดดันจากผลกระทบโควิดระลอก 3 และมีมาตรการห้ามทานในร้านอาหาร 16 วันในพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด ทำให้ต้องพึ่งการขายผ่าน Food delivery มากขึ้น ซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำกดดัน GPM ลดลง 100 bps QoQ ขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่บริษัท คือ Fixed cost และได้ lean ตัวเองไปมากแล้วในโควิดระลอก 1-2 ลดต่อได้จำกัด ทำให้เห็นภาพยอดขายลดลงมากกว่าต้นทุน และเผชิญกับการขาดทุน

3Q64 คาดขาดทุนเพิ่ม และจะกลับมามีกำไรใน 4Q64

โดยใน 3Q64 บริษัทเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักขึ้น QoQ ทั้งจากโควิดระลอก 4 และมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นในพื้นที่ 29 จังหวัดเทียบ 6 จังหวัดใน 2Q64 ทำให้คาดจะเห็นผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้น QoQ โดยคาดจะเริ่มกลับมาคาดหวังกับการฟื้นตัวและมีกำไรได้ตั้งแต่ 4Q64 หากสถานการณ์โควิดดีขึ้น และสามารถเปิดประเทศได้ตามแผนโดยบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมรับกับ Pent-up demand ที่จะกลับมาหากเริ่มมีการเปิดร้านอาหาร คือ (1) พนักงาน 100% ของบริษัทได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส และคาดจะครบ 2 โดสทุกคนภายในเดือน ก.ย. จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้านั่งทานในร้านมากขึ้น (2) เตรียมออกสินค้าใหม่หนุนยอดขายในกลุ่มเครื่องดื่มนมเพื่อสุขภาพ สรรพคุณช่วยเรื่องความจำและการนอนหลับ และ (3) เตรียมแผนพร้อมนำแหลมเจริญไปบุก CLMV หากเริ่มมีการเปิดประเทศ

Valuation

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปลายปี 65 ที่ 58 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 9%, G.2%) โดยแม้เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 64-65 ลง 82% และ 19% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนผลกระทบโควิดระลอก 3-4 แต่มองปัจจัยลบส่วนใหญ่ได้สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว และมองเป็นโอกาสทยอยสะสมในหุ้นที่มีสถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net cash และมีสภาพคล่องทน Cash burn ได้มากกว่า 1 ปี และอยู่ในธีมหุ้นเปิดเมืองที่จะเริ่มคาดหวังการฟื้นตัวได้ตั้ง 4Q64

- Advertisement -