สรุปภาวะตลาด
วันพุธท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดยดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาท่ี 1,600 จุด และสามารถยืนได้ เป็นแรงซื้อเข้ามาในหุ้นใหญ่อย่างพลังงาน ธนาคาร และไอซีที ปัจจัยบวกมาจาก ข่าวท่ีว่า ศบค.อาจมีการผ่อนปรนการคลายล็อคกิจการบางประเภท เช่นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,600.49 จุด +13.51 จุด +0.85% มูลค่าการซื้อขาย 92,934 ลบ. ต่างชาติ +3,606.64 ลบ. TFEX +4,994 สัญญา ตราสารหนี้ +21,019.80 ลบ.
ปัจจัยบวก
+/- ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 39.24 จุด +0.11% ได้ แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มผู้ผลิตชิป นลท.จับตาการประชุมประจำปีของเฟด ซึ่งจะเร่ิมขึ้นในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
+ ราคาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ +1.7% ปิดท่ี 72.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ ของสหรัฐที่ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 บ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
+ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า จีนประสบความสาเร็จภายใต้ชื่อกลยุทธ์ “โควิด-19 เป็นศูนย์” หลังไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศเป็นคร้ังแรก นับตั้งแต่เดือนก.ค. และ “อาจกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธ์ุเดลตา” ได้
+ “ไฟเซอร์-ไบออนเทค” เตรียมขออนุมัติ FDA เพื่อให้มีการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 เข็มที่ 3
+ ส.อ.ท.ลั่นท้ังปีมีโอกาสทำยอดผลิตรถยนต์ตามเป้าท่ี 1.55-1.6 ล้านคัน หลัง 7 เดือน ผลิตเฉียด 1 ล้านคัน รับอานิสงส์ผลิตเพื่อส่งออก พร้อมจับตาสถานการณ์ขาดแคลนชิปท่ัวโลกอาจกระทบ
+ “ตลท.” เผย กองทุนต่างชาติ 110 ราย เข้าร่วมงานไทยแลนด์โฟกัส เหตุบจ.ไทยแข็งแกร่ง กว่า 47% แข่งขันได้ระดับโลกดึงรายได้เข้าประเทศ
ปัจจัยลบ
– CDC เปิดเผยผลวิจัยระบุว่า ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีความเสี่ยงที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหลังติดเชื้อมากขึ้นถึง 29 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
-WHO กล่าวว่าการส่งต่อข้อมูลผิดๆเกี่ยวกับโควิด- 19 และวัคซีน ทำให้ผู้คนปฏิเสธการฉีดวัคซีน และส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยท่ัวโลกเพิ่มขึ้น
– นักวิจัยในสหราชอาณาจักรระบุว่า ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ของวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค และออกซ์ฟอร์ด/แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 2 โดสจะเร่ิมลดลงภายใน 6 เดือน ตอกย้ำความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือบูสเตอร์
-สภาพัฒน์ เปิดเผยว่าภาวะหนี้สินครัวเรือนใน 1Q64 เพิ่มข้ึนต่อเนื่อง ขยายตัว 4.6% เทียบกับ 4.1% ใน ไตรมาส ก่อนหรือคิดเป็นสัดส่วน 90.5% ต่อ GDP จากมาตรการเลื่อนและพักชำระหนี้ที่ทำให้ยอดหน้ีคงค้างไม่ลดลง รวมท้ังครัวเรือนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ก่อหนี้เพิ่มข้ึน
– ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันน้ี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 18,501 ราย มีผู้เสียชีวิต 229 ราย รักษาหาย 20,606 ราย
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันน้ีแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway โดยดัชนีสามารถกลับมายืนเหนือ 1,600 จุดได้อีกครั้ง จาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของ เฟด ที่เมือง แจ็กสัน โฮล ในช่วงปลายสัปดาห์อย่างใกล้ชิด เพื่อรอดูแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,610 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- Defensive Stock : ADVANC TTW EASTW BGRIM
- หุ้น Reopening Play : กลุ่มโรงแรม – MINT ERW CENTEL AWC SHR กลุ่มขนส่ง – BEM BTS กลุ่มห้างสรรพสินค้า – CPN CRC MBK กลุ่มร้านอาหาร – AU M ZEN กลุ่มบริการ – SPA MAJOR กลุ่มค้าปลีก – CPALL BJC MAKRO
- FTSE Rebalance Large Cap Index หุ้นเข้า BBL, KBANK หุ้นออก BBL-F, KBANK-F , AWC, BJC, DIF : Mid Cap Index หุ้นเข้า AWC, BJC, DIF หุ้นออก ไม่มี : Small Cap Index หุ้นเข้า : JMART, STARK หุ้นออก – FTREIT
- ส่งออกเดือน ก.ค. ขยายตัว NER TWPC UVAN TVO PDJ
หุ้นรายงานพิเศษ
CPN – แจ้งการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นสามัญของ SF (Bloomberg Consensus 58.75 บาท)
• บริษัทแจ้งการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นสามัญของ SF กับ MAJOR และกลุ่มผู้ถือหุ้น ราคาหุ้นละ 12 บาท จำนวนหุ้นรวม 1,111 ล้านหุ้น คิดเป็น 52.15% ของหุ้นทั้งหมด (30.36% จาก MAJOR และ 21.79% จากกลุ่มผู้ถือหุ้น) มูลค่ารวม 1.33 หมื่นล้านบาทด้วยวิธี big lot คาดธุรกรรมจะเสร็จส้ินภายใน 30 ส.ค.2564 หลังจากนี้บริษัทต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือท้ังหมดของ SF ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาว่าจะเพิกถอน SF ออกจากการเป็นบจ.หรือไม่
• บริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืม ณ 30 มิ.ย.64 net D/E 0.5 เท่า สูงขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 0.48 เท่า ณ ปลายปี 63 แต่ยังต่ำกว่า debt covenant ที่ระดับ 1.75 เท่า ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย 2% ลดลงจาก 2.25% ณ ปลายปี 63 อันดับเครดิตเรทติ้งโดยทริสอยู่ที่ระดับ “AA” มุมมอง “Negative”
• ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองต่อดีลน้ีที่จะช่วยต่อยอดการเติบโตในอนาคตจาก synergy ในการควบรวมกับ SF และ GLAND ให้สามารถพัฒนาสินค้าท่ีมีความหลากหลายครบวงจรทั้งพื้นท่ีค้าปลีกให้เช่า อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย เราคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วง 3Q64 จะลดลง QoQ YoY จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ต้องปิดบริการและมีส่วนลดค่าเช่าพื้นท่ี แต่กำไรปี 64 ยังมีโอกาสเติบโต ท้ังน้ี Bloomberg consensus คาดกำไรปี 64 เฉลี่ย 7,166.57 ล้านบาท -25%YoY (+27%YoY หากเทียบกับกำไรปกติ) ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 24 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 23 เท่า และต่ำกว่าค่า P/E สูงสุดในรอบ 3 ปี ท่ีระดับ 30 เท่า แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) NRF (Bloomberg Consensus 8.90 บาท) NRF ร่วมกับ GTH เตรียมส่งออกพืชกระท่อมไปสหรัฐเดือนธันวาคม จำนวน 150 ตัน คาดปีหน้าส่งออกมากกว่า 1 พันตัน มองโอกาสเติบโตสูง ดีลเจรจากับลูกค้าในหลายอุตสาหกรรมพัฒนาต่อยอดโปรดักต์ พร้อมโอกาสตั้งศูนย์การแพทย์รักษาโรคซึมเศร้าด้วย กระท่อม เดินตามเป้าหมายรายได้รวมในปี 2566 ไว้ที่ระดับ 4-5 พันล้านบาท ธุรกิจ e-Commerce หนุนเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)
ความเห็น เรามีมุมมอง Neutral ต่อ 3Q64 แม้ว่าคำสั่งซื้อยังมีมาต่อเนื่อง แต่ผลกระทบจาก COVID ทำให้ใช้กำลังการผลิตได้ลดลง อีกทั้งปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ยังเป็นตัวฉุดรายได้ และเพิ่มต้นทุนของบริษัท แม้ว่าราคาปรับตัวลง 26% ต้ังแต่ต้นเดือน ก.ค. แต่แนวโน้มยัง Neutral จึงแนะนำ Wait&See
(+) PTG (Bloomberg Consensus 22.00 บาท) PTG เล็งผุดสินค้าจากพืชกระท่อมในร้านกาแฟของกลุ่ม คาดเริ่มเห็นสินค้าต้นปีหน้า ส่วนผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชงคาดเริ่มเห็นสินค้าปลายปีนี้ ด้านธุรกิจน้ำมันคาดเดือนสิงหาคม ปริมาณเติมน้ำมันกลับมาเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก คาดเริ่มดีขึ้นปลายเดือนกันยายน และกลับมาพีคในไตรมาส 4/2564 จากช่วงไฮซีซัน พร้อมคาดหวังโควิด-19 คลี่คลาย ส่วนทั้งปีคาดปริมาณขายน้ำมันโต 6-8% เดินหน้าขยายสถานีบริการตามแผน เตรียมยื่นเสนอประมูลโรงไฟฟ้าขยะ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) EA (Bloomberg Consensus 70.00 บาท) จ่อบุ๊กส่งมอบรถบัสไฟฟ้าล็อตแรก 100 คัน ช่วงไตรมาส 3/2564 หนุนรายรับพุ่ง พร้อมคอนเฟิร์มปีน้ีรายได้โต 20-30% จากปีก่อน รับทรัพย์โรงไฟฟ้า-ธุรกิจ EV เต็มสูบ ส่วนงบวางไว้ราว 6.1 พันล้านบาท เสริมแกร่งพลังงาน-กลุ่มยานยนต์ ไฟฟ้า (ที่มา ทันหุ้น)
(+) LEO (Bloomberg Consensus 13.50 บาท) ส่งออกคึกคักหนุนธุรกิจโลจิสติกส์ครึ่งปีหลังนิวไฮต่อ ชี้วอลุ่มขนส่งทางเรือครึ่งปีแรกทะลุ 50% แถมลูกค้าเพิ่ม 40% ขณะท่ียอดขายสินค้าออนไลน์ คึกคัก ฟากบิ๊กบอสลั่นปรับเป้าใหม่โตเท่าตัวแตะ 80-85% จากเดิม 40-45% โดดรับค่าระวางเรือพุ่ง 5-10 เท่า แย้มมีดีล M&A ในประเทศ 2-3 ดีล (ท่ีมา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
25-27 ส.ค. ตลท.เตรียมจัดงานไทยแลนด์โฟกัส :Thriving in the Next Normal
27 ส.ค. ศบค.ชุดใหญ่ประชุมพิจารณาข้อเสนอ ผ่อนคลายล็อกดาวน์ต้นเดือน ก.ย.ในธุรกิจประเภทต่างๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ให้เปิดบริการได้อย่างปลอดภัย
สัปดาห์ที่ 5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม 29 ส.ค. คาร์ม็อบท่ัวประเทศ
31 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
26 ส.ค.สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รายงาน GDP 2Q64 (ประมาณการครั้งที่ 2)
26-28 ส.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จัดการประชุมประจำปี ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง
27 ส.ค.จีนรายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.
สหรัฐรายงานดัชนี PCE เดือนก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.
30 ส.ค.อียูรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.
สหรัฐรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน ก.ค. ดัชนีการผลิตเดือน ส.ค. จากเฟดดัลลัส
31 ส.ค. จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคบริการเดือน ส.ค.
สหรัฐเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.
