บล.ฟิลลิป:
บางกอกเชนฮอสปิทอล–BCH การดําเนินงานยังดี
จำนวนเคสตรวจไม่ได้ลดลงอย่างมีนัย
จํานวนเคสตรวจตังแต่วันท่ี 1 ก.ค. -15 ส.ค. อยู่ที่ 3.81 แสนราย แบ่งเป็นลูกค้าเงินสด 22%, สปสช. 61%, ATK 14% และ Saliva 2% (จาก Lab Capacity สูงสุดวันละ 1.6 หมื่นราย) และได้เพิ่มอีกจาก Factory Sandbox ซึ่งตรวจแบบ RT-PCR ทั้งหมดจํานวน 1.7 แสนราย ทั้งนี้ ณ สิ้น 3Q64 น่าจะจบท่ีประมาณ 7 แสนราย แม้น้อยกว่าคาดก่อนหน้าที่ราว 8-9 แสนราย แต่เพิ่มขึ้นจาก 2Q64 ท่ีเพียง 5.88 แสนราย นอกจากนี้ยังตรวจพบอัตราผู้ติดเชื้อฯ เพิ่มขึ้นเป็น 23.2% จากไตรมาสก่อนหน้าท่ี 4.4%
รายได้ค่ารักษาผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มมาก q-q
รายได้ค่ารักษาคนไข้ COVID-19 เพิ่มขึ้นมาก q-q จาก i) เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยโควิด (Cohort Wards) เป็น 1.7 พันเตียง, U-rate เต็ม 100% ii) ขยาย Hospitel เพิ่มเป็น 39 แห่ง หรือประมาณ 1.7 หมื่นเตียง (เป็นของลูกค้า Private Corporate มากกว่า 150 ห้อง), U-rate เฉลี่ยที่ราว 75-80% และ iii) รายได้อื่นๆ เช่น Alternative Quarantine ร่วมกับโรงแรม 21 แห่ง จํานวน 2.6 พันห้อง และรพ.สนามอีก 3 แห่ง จํานวน 740 เตียง, U-rate 80-90%
เปิดรพ.ใหม่ “เกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์” ได้การตอบรับท่ีดี
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เปิดรพ.ใหม่ 1 แห่ง ได้แก่ “รพ.เกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์” ถือหุ้น 68.47% เฟสแรก 110 เตียง และจํานวน 43 ห้องตรวจ ได้การตอบรับดี น่าจะทําให้คืนทุนเร็วกว่าคาด จากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็น Medium to High และ 7 วันท่ีผ่านมามีจํานวนคนไข้ OPD เข้าใช้บริการ มากกว่า 100 คน/วัน และ IPD ค่อยๆ เต็ม ทั้งนี้เป็นคนไข้ Non COVID-19 ทั้งหมด
แนวโน้มกำไร 3Q64 New High
คาดกําไรสุทธิ 3Q64 ทําสถิติสูงสุดใหม่ หนุนจากรายได้ที่เกี่ยวข้อง COVID-19 เพิ่มขึ้นมาก q-q ทั้งจากจํานวนเคสตรวจท่ียังเพิ่มขึ้น แม้สปสช.ปรับลดค่าตรวจลงเป็น 1,500-1,700 บาท ตั้งแต่ ส.ค. เป็นต้นมา จากเดิม 2,300 บาท/ราย แต่ต้นทุนน้ำยาตรวจถูกลงทําให้ไม่กระทบมาร์จิ้น แต่ทั้งนี้ สปสช.ปรับเพิ่มค่ารักษา ผู้ป่วยโควิดในพื้นที่สีแดงและเหลืองเข้มขึ้นอีกประมาณ 25% (ตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย.) บวกกับที่ทางรพ.เพิ่มจํานวนเตียง Cohort Wards ทําให้รายได้ค่ารักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย อีกทั้งแรงหนุนจากขยายจํานวน Hospitel, Alternative Quarantine และ รพ.สนาม ดังกล่าวข้างต้น
รับรู้รายได้วัคซีนทางเลือก “Moderna” ใน 4Q64 ประมาณ 40%
ทยอยรับรู้รายได้วัคซีนทางเลือก “Moderna” จากถูกส่งมอบใน 4Q64 ก่อน 40% และท่ีเหลือ 60% เข้ามาใน 1Q65 ทั้งนี้ BCH ได้รับการจัดสรรล็อตแรก 1.06 ล้านโดส สําหรับล็อต 2 จากทั้งหมดท่ีสั่งไป 5 ล้านโดส ผู้บริหารประเมินจะได้รับการจัดสรรประมาณ 1.2 ล้านโดส ซึ่งน่าจะทยอยส่งมอบใน 1Q65-2Q65 ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการคาดการณ์ ทางฝ่ายปรับสมมติฐานการรับรู้รายได้วัคซีนทางเลือก “Moderna” ใหม่ แต่ยังใกล้เคียงกับจํานวนที่คาดเดิม (รวมในประมาณการแล้ว)
ราคาพื้นฐาน 33.50 บาท แนะนํา “ซื้อ”
แนวโน้มการดําเนินงานดีมากกว่าคาด ทางฝ่ายปรับกําไรปี 64 ขึ้นเป็น 4,582 ล้านบาท เติบโต 272.7% y-y และสมมติฐานรายได้ค่ารักษาเพิ่มขึ้น 97.4% y-y ที่ 17,620 ล้านบาท และปรับกําไรสุทธิปี 65 ขึ้นเล็กน้อย ราคาพื้นฐานท่ี 33.50 บาท คงคําแนะนํา “ซื้อ” สําหรับการนําเข้า “ไฟเซอร์” โดยเอกชน ทางผู้บริหารมองยังกระทำไม่ได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับภาวะแทรกซ้อน
