บล.ทรีนีตี้:
บางกอก เชน ฮอสปิทอล– BCH คาด 3Q64 เติบโตโดดเด่นทั้ง QoQ และ YoY
- คาดผลประกอบการดีต่อเนื่องไปยัง 3Q64 จากการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงกว่า 2Q64 และจากการเพิ่มจำนวนเตียงของ Hospitel เป็น 1.66 หมื่นเตียง
- คงคาดการณ์รายได้ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 2.16 พันล้านบาท คิดเป็นการเติบโตที่ 76.3% YoY
- ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 30.30 บาท/หุ้น อิง WACC ที่ 7%
Meeting Update
- สัดส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ใน 2Q21 อยู่ที่ 55.6% ของรายได้รวม โดยที่ 28.8% มาจากการรับตรวจเชื้อที่ 5.88 แสนราย และรายได้จาก Hospitel รวมกับการรับการรักษาในโรงพยาบาลอยู่ที่ 24.5%
- สัดส่วนรายได้จากกลุ่มประกันสังคมปรับตัวลดลง แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ประกันตนสูงขึ้น 0.4% แต่จำนวนการ visit และรายได้ต่อหัวปรับตัวลดลงจากการเลื่อนผ่าตัดเล็ก และการตรวจสุขภาพ
- รายได้ใน 3Q64 คาดมีสัดส่วนจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 เพิ่มขึ้น หลังจากได้เพิ่มจำนวน Hospitel เป็น 39 แห่ง รองรับผู้ป่วยสีเขียว 1.66 หมื่นราย และมีอัตราการครองเตียงที่ 90% และมีจำนวนผู้ป่วยครองเตียงเฉลี่ยในโรงพยาบาลที่ 1,500-1,700 ราย/วัน จาก 1,000 ราย/วัน ในช่วงเดือน มิ.ย.2564 และ Capacity ในการรับตรวจเชื้ออยู่ที่ 16,000 ราย/วัน
- BCH ได้รับจัดสรรวัคซีน Moderna ล็อตแรกที่ 1.6 ล้านโดส (จากทั้งหมด 3.9 ล้านโดส) โดยที่รายได้จากการให้บริการวัคซีนที่ 1,650 บาท/โดส จะเริ่มรับรู้ใน 4Q64 ที่ 40% และอีก 60% จะรับรู้ใน 1Q65 และใน 4Q64 คาดว่าจะมีการรับเปิดจองล็อต 2 เพิ่ม ในขณะที่กำไรใน 4Q64 คาดว่าจะใกล้เคียงกับ 2Q64 เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อคาดว่าจะลดลงจาก 3Q64 แต่จะได้รับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการวัคซีน Moderna
- แม้ว่าทางสปสช. จะปรับลดอัตราการเบิกจ่ายสำหรับการตรวจเชื้อแบบ PCR แต่เนื่องจากราคาต้นทุนก็ได้ปรับตัวลดลงเช่นกันส่งผลให้ Margin ไม่ได้รับผลกระทบ.
ยังคงคาดการณ์ปี 2564
เรายังคงคาดการณ์กำไรปี 2564 ที่ 2.16 พันล้านบาท จากการคาดการณ์รายได้ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท โดยใน 3Q64 จะมีจำนวน Hospitel เพิ่มขึ้นเป็น 39 แห่ง จำนวนเตียง 1.66 หมื่นเตียง และโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ ได้เพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับคนไข้ COVID-19 กลุ่มสีเหลือง-แดง ที่ทางสปสช. ได้เพิ่มอัตราการเบิกจ่าย
ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 30.30 บาท
รายได้และกำไรยังคงได้รับการสนับสนุนจาก COVID-19 และหากสถานการณ์คลี่คลายจะมี Pent Up Demand ของทั้งจากคนไข้ในประเทศและคนไข้ Fly In ช่วยลดความผันผวนจากรายได้ COVID-19 ในขณะที่ฐานคนไข้จะมีการเติบโตจากการที่ BCH มีการรับลงทะเบียนคนไข้ใหม่กว่า 4.5 แสนรายในช่วงที่รับตรวจและรักษา COVID-19 ซึ่งยังไม่นับรวมฐานคนไข้จากการรับวัดซีน Moderna ที่ BCH มีอยู่ 1.6 ล้านโดส และการปรับเพิ่มของการเบิกจ่ายผู้ป่วยสีเหลือง-แดงขึ้นราว 20% จะส่งผลให้มีรายได้และ Margin ที่สูงขึ้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 30.30 บาท โดยเราคาดกำไรจะมีการเติบโตที่ 76.3%YoY และประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.2 บาท/หุ้น XD วันที่ 31 ส.ค. 2564
ปัจจัยเสี่ยง
- การปรับนโยบายการเบิกค่ารักษาพยาบาลของกลุ่มประกันสังคมในอนาคต เนื่องจาก BCH มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มนี้สูงถึง 35% ของรายได้รวม
- ปัจจัยทางสภาพอากาศที่ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยผันแปรไปตามฤดูกาล
- การระบาดของโรคต่างๆตามแต่ละปีที่มีระยะเวลาและอัตราค่ารักษาที่แตกต่างกัน
- การแข่งขันด้านราคาและบริการของโรงพยาบาลใกล้เคียง
- การระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลให้คนไข้ต่างชาติไม่สามารถเดินทางมารับการรักษา