สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องหลังจากยืนเหนือ 1,600 จุด มีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และ ICT จากที่คาดว่าศบค. มีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ให้เปิดห้าง และร้านอาหารได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมเฟดประจำปีในคืนวันนี้ ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดการลดขนาด QE ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,611.20 จุด +9.29 จุด +0.58% มูลค่าการซื้อขาย 95,446 ลบ.ต่างชาติ +6,002.23 ลบ. TFEX +6,447 สัญญา ตราสารหน้ี -1,515.44 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 242.68 จุด +0.69% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮเป็น วันที่ 4 ในสัปดาห์นี้ DJIA +1% S&P500 +1.5% Nasdaq +2.8% ขานรับ FED ไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้ปรับลดวงเงิน QE ก่อนส้ินปีน้ีก็ตาม

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มข้ึน 1.32 ดอลลาร์ +2% ปิด ท่ี 68.74 ดอลลาร์/บาร์เรล +10.6% ในสัปดาห์ท่ีผ่าน มา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว จากการที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งหยุดผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกก่อนท่ีพายุเฮอริเคนจะพัดถล่มในช่วงสุดสัปดาห์น้ี

+ สธ.เผยอัตราครองเตียงผู้ป่วยเหลือง-เขียวในกทม.- ปริมณฑลมีแนวโน้มลดลง

+ กทม.ผ่อนคลายล็อกดาวน์ ให้นั่งกินในร้าน ห้าง และคอมมูนิตี้มอลล์เปิดถึง 2 ทุ่มเริ่ม 1 ก.ย.

+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 15,972 ราย ชะลอตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ท่ีแล้ว มีผู้เสียชีวิต 256 ราย รักษาหาย 17,281ราย

ปัจจัยลบ

– งานวิจัยของอังกฤษระบุว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีโอกาสเสี่ยงสูงท่ีจะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน มากกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเก้าหรือวัคซีนของไฟเซอร์

– EIU เปิดเผยรายงานระบุว่า GDP ของโลกอาจเสียหายระดับล้านล้านดอลลาร์ เพราะความล่าช้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยประเทศกำลังพัฒนาจะเสียหายหนักที่สุด เนื่องจากความไม่เท่าเทียมของการฉีด

– สหรัฐโจมตีกลุ่ม ISIS ในกรุงคาบูลระลอกสอง สังหารมือวางระเบิดสนามบินได้ 1 ราย

– คาร์ม๊อบนัดรวมตัวอีกครั้ง 2 ก.ย. พร้อมเรียกร้องส.ส. ร่วมมือขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์

– นิด้าโพลเผยส่วนใหญ่มองมาตรการล็อกดาวน์ไม่ประสบความสำเร็จ ชี้ว่าควรทำต่อให้เข้มข้นขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสปรับตัวข้ึน โดยมีแรงหนุนจากการที่ ศบค. มีผ่อนคลายล็อกดาวน์บางส่วน ประกอบกับ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และราคาน้ำมันดิบ WTI ท่ีปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่ม พลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,630 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play : กลุ่มโรงแรม – MINT ERW CENTEL AWC SHR กลุ่มขนส่ง – BEM BTS กลุ่มห้างสรรพสินค้า – CPN CRC MBK กลุ่มร้านอาหาร – AU M ZEN กลุ่มบริการ – SPA MAJOR กลุ่มค้าปลีก – CPALL BJC MAKRO
  • FTSE Rebalance Large Cap Index หุ้นเข้า BBL, KBANK หุ้นออก BBL-F, KBANK-F , AWC, BJC, DIF : Mid Cap Index หุ้นเข้า AWC, BJC, DIF หุ้นออก ไม่มี : Small Cap Index หุ้นเข้า : JMART, STARK หุ้นออก – FTREIT
  • ส่งออกเดือน ก.ค. ขยายตัว NER TWPC UVAN TVO PDJ

หุ้นรายงานพิเศษ

MICRO – มุมมองบวกจาก Potential Growth (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 11.00 บาท)

  • 2Q64 มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท +51%YoY -2%QoQ เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยรับเติบโตตามพอร์ตสินเช่ือ และรายได้ค่าธรรมเนียมจากประกันรถและคุ้มครองวงเงิน ไตรมาสนี้ บริษัทมีผลขาดทุนด้านเครดิตท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้น และการตัดหน้ีสูญ (ECL) เพิ่มข้ึนจากการด้อยค่าของลูกหนี้ และการตัดหนี้สูญ ส่งผลให้ credit cost ที่รวม Management Overlay ใน 2Q64 ปรับขึ้นสู่ 4.6% จาก 3.4% ในปี 63 อัตรากำไรสุทธิ 34.4% ปรับดีขึ้นจาก 30.8% ใน 2Q63 6M64 กำไรสุทธิ 101 ล้านบาท 62%YoY ฐานะการเงินแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วน D/E 0.77 เท่า เพิ่มข้ึนจาก 0.51 เท่า ณ ปลายปี 63 ต่ำกว่า ค่าเฉลี่ยของกลุ่มท่ีระดับ 2.19 เท่า
  • ผู้บริหารตั้งเเป้าพอร์ตสินเชื่อปี 64 เติบโต 30% ต่อปี มีแผนเปิดสาขาใหม่โดยเฉพาะโซนภาคตะวันออกปีละ 4 แห่งในปี 64-65 ต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิตท่ีเพิ่งเร่ิมดำเนินงาน และธุรกิจที่เก่ียวเนื่องกับการปล่อยสินเช่ือรถบรรทุกเป็นหลักมีสัดส่วนกว่า 75% ด้านคุณภาพสินทรัพย์ ผู้บริหารตั้งเป้าคุม %NPL ปลาย มิ.ย.64

หุ้นมีข่าว

(+) BTS-JMART (Bloomberg Consensus 12.10 , 47.50 บาท) “เจ มาร์ท” ปิดดีลกลุ่ม “บีที เอส”บริษัทวีจีไอและยูซิตี้ ใส่เงินเพิ่มทุน JMART กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ถือหุ้นรวม 24.9% รองรับการขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคต ขณะที่ U ใส่เงินเพิ่มทุน SINGER ดันฐานทุนเพิ่ม 7.2 พันล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) IRPC (Bloomberg Consensus 4.20 บาท) “ไออาร์พีซี” จ่อปิดดีลลงทุนโรงงานถุงมือยาง สังเคราะห์ภายในปีนี้ ต่อยอดธุรกิจเมกะเทรนด์ด้านธุรกิจสุขภาพ เผยมีดีลเจรจา M&A อีก 2-3 โครงการทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ทิศทางยอดขายปีน้ียังเติบโต พร้อมเร่งปรับแผนลงทุน 5 ปี ต้ังเป้าอีบิทด้าจากธุรกิจใหม่แตะ 25% ภายในปี 68 (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

(+) AS (Bloomberg Consensus 20.10 บาท) มองผลงานไตรมาส 3/2564 โดดเด่น ตามการเปิดตัวเกมใหม่ท่ีเพิ่ม พร้อมเดินหน้าอัพเดตคอนเทนต์เกมเดิม หลังรักษาฐาน-เพิ่มรายได้ เล็งขยายตลาดเวียดนาม-อินโดนีเซียต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15-20% เข้าเป้า สัดส่วนเกมโมบายส้ินปีน้ี แตะกว่า 35% ลุยเดินหน้าในการหาเกมใหม่ๆ เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GGC (Bloomberg Consensus 11.00 บาท) “GGC” มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ทรงตัวสูง 37 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่สัญญาณดีมานด์น้ำมันฟื้นตัวชัดเจน เตรียมลุยโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์เฟส 2 ป้อนระบบสาธารณูปโภคโรงงาน PLA ของเนเชอร์เวิร์คส์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

30 ส.ค.สศอ.แถลงดัชนอีตุสาหกรรมสศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนคีวามเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

31 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ฝากแปะปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ

31 ส.ค.-3 ก.ย.อภปิรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลลงมติ 4 ก.ย.64

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

30 ส.ค. อียูรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.

สหรัฐรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนก.ค. ดัชนีการผลิตเดือนส.ค. จาก เฟดดัลลัส

31 ส.ค.จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคบริการเดือน ส.ค.

สหรัฐเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

1 ก.ย.จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.จากไฉซิน

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค. จาก ADP ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน ส.ค.ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

2 ก.ย.สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ก.ค.

- Advertisement -