บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Singer Thailand (SINGER) จากนักร้องสู่ Superstar
TP Revision
ประเมินการลงทุน
การปรับโครงสร้างทุน 1.1 หมื่นล้านบาท ได้เปลี่ยนฐานะการเงินของ SINGER อย่างสิ้นเชิง ด้วยดอกเบี้ยที่ลดลงทันที ช่วยให้กำไรต่อหุ้น (EPS) ระยะสั้นถูกกระทบจำกัด ก่อนจะกลับมาเติบโตระดับ 30%YoY ในปี 2566-67 เราชอบ SINGER ที่มีเครือข่ายแฟรนไชส์ท่ีเป็นจุดแข็ง พร้อมต่อยอดกับธุรกิจระหว่างเครือฯ ทั้งพาณิชย์-ขนส่ง-ประกัน จึงมี Upside risk กำไรเข้ามาในประมาณการกำไรสูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 49 บาท
เสริมแกร่งในระยะสั้น…เสริมการเติบโตในระยะยาว
การเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นใหม่ 305 ล้านหุ้นผ่าน RO 96 ล้านหุ้น และ PP โดย U 197 ล้านหุ้น ราคา 36.33 บ./หุ้น ทำให้มีเงินทุนราว 1.1 หมื่นล้านบาท ทำให้ D/E ลดลงจาก 1.8x เหลือ 0.6x ซึ่งทำให้บริษัทปลดล้อคข้อจำกัดเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ที่ปัจจุบันปล่อยสุทธิ +400 ลบ./ ไตรมาส (รวม 8.5 พันลบ. ณ 2Q64) นอกจากนี้เรามองเห็น Upside บนธุรกิจ ทั้งการนำสินค้าหมวดใหม่ๆ (Fanslink-VGI), การให้บริการด้านโลจิสติกส์ (VGI-KEX) และรวมถึงประกันชีวิต (ALIFE) ในอนาคต คาดเร่ิมเห็นพัฒนาการบางโครงการตั้งแต่ในช่วงครึ่งปีหลัง
ปรับประมาณการปี 65-66 ขึ้น 19-38% สะท้อนต้นทุนที่เป็นขาลง
ผลบวกระยะสั้นท่ีเกิดขึ้น คือต้นทุนการเงินลดลงอย่างมีนัยจาก i) ทยอยคืนหุ้นกู้ 1.5-1.8 พันลบ.ในปี 2565-66 ซึ่งมีดอกเบี้ยราว 5-5.5% ii) การปล่อยสินเชื่อ C4C ใหม่ด้วยเงินท่ีต้นทุน iii) งบดุลแข็งแรงขึ้นจึงมีโอกาส Credit rating ที่ดีขึ้น และ refinance ได้ไม่น้อยกว่า 50-100bps ในอนาคต เราได้ทบทวนกำไรสุทธิปี 2565-66 เท่ากับ 1/1.5 พันลบ. +70/41%YoY จากพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตเร็วกว่าคาด 20-30% โดยมีต้นทุนการเงินที่ลดลงจาก 5.8% ณ ปัจจุบันลงไปต่ำกว่า 4% ภายหลังการเพิ่มทุน (และ SGC spin-off) บวกต่อ %NPM ท่ีขยับจาก 13% เป็น 18% และมีโครงสร้างต้นทุนที่แข่งขันกับรายอื่นในตลาดได้มากขึ้น
คงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเหมาะสม 49 บาท
ผลจากการเพิ่มทุน (Dilution) ถึง 37% อาจทำให้กำไรต่อหุ้น (EPS) ในปี 2565 ทรงตัว YoY แต่การเร่งปล่อยสินเชื่อไวกว่าแผนเดิมราว 1 ปี จะทำให้กำไรสุทธิเติบโตโตเฉลี่ย (3-Yr CAGR) เท่ากับ +29% ในสามปีข้างหน้าเราแนะนำซื้อ ปรับใช้ราคาเหมาะสมสำหรับปี 65 เท่ากับ 49 บาท อิง P/E 35 เท่า โดยให้ premium บนการเติบโตในระยะกลางเหนือกลุ่ม โดยไมร่วมการปลดล็อคมูลค่าของ SGC ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนฯในกลางปีหน้า
ความเสี่ยง คือ คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอกว่าคาด, กำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัว, การแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรม