คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้
คาดดัชนีฯ Sideways แนวรับ 1630/1625 จุด แนวต้าน 1645/1650 จุด แนะนำเก็งกำไร GLOCON TISCO KCE ทางเทคนิคหากดัชนีฯ ปิดต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 1621 จุด จะทำให้ตลาดมีแนวโน้มอ่อนลงมาสร้างฐานราคาบริเวณใกล้ 1600 จุด
ปัจจัยบวก:
- จำนวนผู้ติดเชื้อที่เริ่มลดลงทำให้ศบค. มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เพิ่มเติมซึ่งเป็นบวกต่อทั้งภาคเศรษฐกิจจริงและการลงทุนในตลาดหุ้น
- กกร. ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้สูงขึ้นเป็น -0.5% ถึง +1% (เดิม -1.5% ถึง 0%) และผลักดันให้รัฐบาลตั้งเป้าหมายปีหน้าเติบโต 6-8% (ปัจจุบัน 3-5%) สะท้อนมุมมองการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ปัจจัยลบ:
- ต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยที่ 889 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายเป็นวันทำการแรก
- ตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาผลักดันตลาดในระยะสั้น นอกจากนี้นักลงทุนยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯที่จะประกาศวันศุกร์นี้ ทำให้นักลงทุนบางส่วนมีแนวโน้มขายทำกำไรหุ้นที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้ เพื่อถือเงินสดและรอดูสถานการณ์
ประเด็นอื่นๆ ที่ต้องติดตามวันนี้
- Opportunity Day ได้แก่ BAM PYLON AIMIRT GRAMMY AIT SGP FN
- ตัวเลข GDP Growth Rate ของประเทศเกาหลีใต้ในไตรมาส 2 โดยคาดว่าจะลงเหลือ +0.7%QoQ และเพิ่มขึ้น +5.9% YoY
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการณ์การว่างงานรายสัปดาห์คาดว่าจะออกเพิ่มขึ้นเป็น 3.45 แสนราย ลดลงจากเดิม 3.53 แสนราย
Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
– ตลาดหุ้นไทยปิดลบเป็นวันแรก: ดัชนีฯ เปิดบวกไปทดสอบแนวต้านสำคัญในชั่วโมงแรก ก่อนที่จะโดนกดดันจากแรงเทขายหุ้น Big Cap ทำให้ลงมาคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ก่อนมาปิดตลาดที่ 1634.48 จุด -4.27 จุด วอลุ่มซื้อขาย 1.17 แสนล้านบาท นำลงโดยกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -2.22% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ -1.87% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -1.25% กลุ่มธนาคาร -1.13% หุ้นบวก> 4% MAKRO DELTA U JMART DTAC BROOK GLOCON AKR SINGER SDC ITEL TH AIT SABUY INSET UPA หุ้นลบ> 4% RPC TTA PK AH SYNEX JWD AMANAH CHO MDX
+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปปิดผสมผสาน: ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดคละ DJIA -0.14% (-48.20 จุด) S&P500 +0.03% และ NASDAQ +0.33% ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสาธารณูปโภค ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดคละ CAC40 +1.18% DAX -0.07% FTSE +0.42% โดย DAX อ่อนตัวลงตามตัวเลข retail sale ที่ต่ำกว่าคาด ส่วน CAC40 และ FTSE ปรับตัวขึ้นจากตัวเลข PMI ที่ฟื้นตัว
+/- น้ำมันปิดคละ ส่วนทองปิดลบ: WTI +9 เซนต์ ปิดที่ USD68.59/บาร์เรล Brent -4 เซนต์ ปิดที่ USD71.59/บาร์เรล การซื้อขายในตลาดน้ำมันเป็นไปอย่างผันผวน แม้ว่าตลาดได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาด แต่ราคาน้ำมันก็ได้รับแรงกดดัน หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน ราคาทองคำปิด -USD2.1 ปิดที่ USD1,816/ออนซ์ ปรับตัวในกรอบแคบตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนประกาศตัวเลข Non farm Payroll
ประเด็นสำคัญ
+ THAI BAHT: ค่าเงินบาทช่วงเย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 32.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 32.43/45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีการคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหววันนี้ไว้ที่ 32.20-32.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผลจากการแข็งค่าตามทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค หลังจากค่าเงิน USD ในตะกร้าสกุลหลัก (DXYO) อ่อนค่า -1.2% ในรอบ 9 วัน
– JAPAN: Mfg.PMI เดือน ส.ค. ซึ่งจัดทำโดย Jibun Bank Flash ลดลงมาอยู่ที่ 52.7 จากเดือนก่อนหน้าที่ 53 จากการผลิต และคำสั่งซื้อใหม่ที่ชะลอตัวลง ขณะที่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานยังคงเป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศญี่ปุ่น
– EU: Mfg. PMI เดือน ส.ค. อยู่ที่ 61.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 6 เดือน และลดลงจากระดับ 62.8 ในเดือน ก.ค. แต่ยังคงอยู่ในระดับขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14
– USA: ออโตเมติกดาต้าโพรเซสซิ่งอิงค์ (ADP) และมูดี้ส์อนาลิติกส์เปิดเผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพียง 374,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 613,000 ตำแหน่ง แต่ยังคงสูงกว่าเดือน ก.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 326,000 ตำแหน่ง
– THAILAND: กกร. ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้สูงขึ้นเป็น -0.5% ถึง +1% (เดิม -1.5% ถึง 0%) และผลักดันให้รัฐบาลตั้งเป้าหมายปีหน้าเติบโต 6-8% (ปัจจุบัน 3-5%) โดยให้รัฐบาลเร่งปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70-80% (จาก 60%) เพื่อเพิ่มปริมาณเงินอัดฉีด 7 แสนล้านบาท ถึง 1.5 ล้านล้านบาท
แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: IRPC ACE AMATA
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: GLOCON TISCO KCE
Derivatives: แนะ Wait & see หลังปิด S50U21 ทำกำไรไปแล้ว
