แกว่งตัวออกข้าง 1640-1660

ตลาดหุ้นวันนี้

  • แกว่งตัวออกข้าง: เช้านี้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวออกข้างในกรอบระหว่าง 1640-1660 จุด หลังปัจจัยการเมืองในประเทศคลี่คลาย ด้วยสภาผู้แทนราษฎรยังคงมีมติไว้วางใจนายกฯรัฐมนตรีและรัฐมนตรีห 5 คน ปฎิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มขับไล่รัฐบาลยังไม่มีน้ำหนักกดดัน SET Index ในตอนนี้ แต่ต้องจับตาการยกระดับการชุมนุมและอนาคต ด้านสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศ แนวโน้มผู้ติดเชื้อยังทรงตัวหลังคลายมาตรการคุมเข้ม ระยะที่ 1 ตั้งแต่ 1 ก.ย. 64 ยังต้องจับตาสัปดาห์นี้ ว่าการเริ่มพิจารณาคลายมาตรการระยะที่ 2 จะสามารถดำเนินต่อไปได้หรือไม่ ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนที่ค่าเฉลี่ย 7 วัน สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรุงเทพที่มีผู้ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วกว่า 93% และได้รับวัคซีนครบโดสแล้วกว่า 30% อาจเป็นพื้นที่นำร่องการคลายมาตรการคุมเข้มเปิดกิจการ กิจกรรมต่างๆ เต็มรูปแบบในไม่ช้า ภาพรวมมองว่า SET Index ยังอยู่ในแนวโน้มหลักขาขึ้นแต่ Upside จะเริ่มจำกัดหลังการปรับตัวขึ้นมากกว่า 120 จุด ในช่วง 15 วันทำการที่ผ่านมา กลยุทธ์การลงทุน ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อสะสม” หุ้นกลุ่มเปิดเมืองเมื่อราคาย่อตัว
  • ตัวเลขแรงงานสหรัฐผิดคาด: วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานอกภาคการเกษตรออกมาเพียง 235,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าตลาดคาดการณ์ท่ี 750,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานออกมาอยู่ท่ี 5.2% ตรงตามท่ีตลาดคาดการณ์ สะท้อนการจ้างงานของสหรัฐในครึ่งปีหลังเริ่มสะดุดหลังเผชิญการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหนุน Fund Flow ไหลกลับมาตลาด Emerging Market อีกทั้งช่วยลดความกังวลการเร่งทำ QE Tapering ของ Fed ลง เนื่องจากการจ้างงานยังคงห่างไกลจากเป้าหมายของ Fed จึงคาดว่าการประชุม FOMC เดือน ก.ย. 64 นี้ Fed อาจจะประกาศเพียงแผนการทำ QE Tapering และเริ่ม ประกาศอย่างเป็นทางการในการประชุม FOMC เดือน พ.ย. 64 ซึ่งตลาดน่าจะเริ่มมองข้ามปัจจัยน้ี และหันมาให้น้ำหนักกับการเติบโตของเศรษฐกิจและการควบคุมการระบาดของ COVID-19 มากขึ้น ที่ต้องลุ้นว่าฝั่งสหรัฐและยุโรปจะกลับมาเปิดประเทศได้ภายใน 2H64 หรือไม่
  • ติดตามประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ (ตามเวลาไทย):1) 7 ก.ย. ตัวเลขการส่งออก-นาเข้าของจีน ที่คาดว่าน่าจะยังชะลอลงต่อเนื่อง จากผลกระทบการระบาดของสายพันธุ์เดลตาและเหตุน้ำท่วมใหญ่ 2) 9 ก.ย.การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คาดว่าน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม แต่ต้องรอติดตามว่า ECB จะปรับแผนการทำ QE ผ่านโครงการ PEPP หรือไม่ หลังจากท่ี Fed ประกาศทำ QE Tapering ภายในสิ้นปีนี้ และ 3) 9-10 ก.ย. ถ้อยแถลงนายจอห์น วิลเลียม ประธาน Fed สาขา New York ที่เป็นหนึ่งในผู้ใกล้ชิดนายเจอร์โรม พาวเวลล์ หลังตัวเลขแรงงานสหรัฐผิดคาด จะส่งผลต่อนโยบายการเงินของ Fed หรือไม่

Picks of the day

BEC BUY

• ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองเช่นกัน: กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาหลังผ่อนคลายมาตรการ คาดเห็นเม็ดเงิน โฆษณากลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

• 2H64 คาดกำไรดีกว่า 2H63 : การปรับโครงสร้างทำให้ SG&A ลดลงอย่างมีนัยหนุน 2H64 โดยเฉพาะใน 4Q64 อีกทั้ง จะมีการออกคู่ขนานละครและขายลิขสิทธิ์ให้ OTT ในต่างประเทศ หนุนรายได้ลิขสิทธิ์และดิจิทัลซึ่งมีกำไรสูง

TU BUY

• คาด 3Q64 ถ้าย่อก็ไม่มาก: คาด 3Q64 การดำเนินงานอ่อนลง q-q จากปกติที่การดาเนินงานของ RL จะอ่อนลง แต่การคลายล็อกดาวน์ทั้งในไทยและต่างประเทศทำให้ยอดขายกลุ่มแช่แข็งยังเติบโต และได้ผลบวกจากเงินบาทอ่อน

• ซื้อขายมีส่วนลดมากเกินไป: ราคาปัจจุบันซื้อขาย บน P/E ไม่ถึง 13x มีส่วนลดมากเกินไป หากเทียบกับกลุ่ม แม้อาจมีประเด็นเรื่อง Avanti แต่คาดผลกระทบจำกัด และสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว

- Advertisement -