บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

THAIFOODS GROUP สะดุดชั่วคราว … ปี 2565 น่าจะแรง

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +31.6%

Close Sep 3, 2021 Price (THB) 4.56

12M Target (THB) 6.00

Previous Target (THB) 6.70

What’s new?

  • ปรับประมาณการกำไรปี 2564-2565 ลง 39% และ 24% ตามลำดับ จากราคาหมูท่ีปรับตัวลง และ SG&A ท่ีเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของร้าน Fresh market
  • คาดกำไรกลับมาสดใสอีกคร้ังใน 4Q64 จากการคลายล็อคดาวน์ การส่งออก การเร่ิมมีกำไรเต็มไตรมาสของธุรกิจ Further และร้าน Fresh market เร่ิมมีรายได้ท่ีมีนัยสำคัญ บางสาขาเร่ิมทำกำไร

Our View

  • เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ TFG ท่ีจะเติบโตสูงในปี 2565 และยังไม่รวมรายได้จาก Fresh market ไว้ในประมาณการ
  • ราคาตลาดยังมี Upside gain ถึง 31.6% แม้จะมีการปรับประมาณการลงค่อนข้างมาก สะท้อนกว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว
  • ราคาปัจจุบันซื้อขายด้วย PER2565 ต่ำ เพียง 12 เท่า คงคำแนะนำ ซื้อ

ปรับประมาณการลงสะท้อนผลกระทบจาก COVID-19

ผลของการระบาดของ COVID-19 ระลอก 3–4 ทำให้มีการล็อคดาวน์ส่งผลให้การบริโภคหดตัว ราคาหมูในประเทศลดจาก 75 – 80 บาท/กก. ในเดือน เม.ย. ปัจจุบันอยู่ที่ 60 – 65 บาท/กก. และราคาไก่หน้าฟาร์มลดลงจาก 32–33 บาท/กก. เหลือ 30–31 บาท/กก. แต่คาดว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว การคลายล็อคดาวน์ร้านอาหารและการเดินทางทำให้การบริโภคฟื้นตัว คาดว่าราคาเนื้อสัตว์จะทยอยปรับตัวขึ้นได้บ้าง ราคาต้นทุนกากถั่วเหลืองเริ่มลดลงใน 3Q64 แต่ราคาข้าวโพดกลับสูงขึ้น และกำไรปกติ 2Q64 รายงานที่ 326 ลบ.(-25.8%QoQ, -29.0%YoY) ทำให้กำไรปกติ 1H64 อยู่ที่ 764 ลบ. คิดเป็นสัดส่วนเพียง 29% ของประมาณการทั้งปีของเรา  เนื่องจากผลของ COVID-19 ท่ีรุนแรงและยาวนานกว่าที่คาด เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2564-2565 ลง 39% และ 24% ตามลำดับ จากราคาหมูท่ีปรับตัวลง เราปรับสมมติฐานราคาหมูลงเป็น 70 บาท/ก.ก. จาก 73 บาท/ก.ก. ในปี 2564 และจาก 73 บาท/ก.ก. เป็น 72 บาท/ก.ก. ในปี 2565 และปรับเพิ่ม SG&A ขึ้น 10% และ 6% ในปี 2564 – 2565 ตามลำดับ เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของร้าน Fresh market ส่งผลให้กำไรปกติปี 2564–2565 ลดลงอยู่ที่ 1,637 ลบ. (-29.8%YoY) และ 2,093 ลบ. (+27.8%YoY) ในปี 2565 โดยในปี 2565 จะเติบโตจากราคาหมูและไก่ฟื้นตัว ธุรกิจ Further มีกำไรเต็มปี และธุรกิจ Fresh market เริ่มมีนัยสำคัญ

ปี 2565 น่าตื่นเต้น

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโต 5 – 8%YoY จากเดิมที่ตั้งเป้าเติบโต 15%YoY (ก่อน COVID-19 ระบาดระลอกท่ี 3 – 4) และตั้งเป้ารายได้ปี 2565 เติบโต 10%YoY จากสถานการณ์ COVID-19 ที่คาดว่าจะดีขึ้นจากปี 2564 การส่งออกเติบโต สำหรับแนวโน้มกำไรช่วง 3Q64 คาดฟื้นตัวที่ราว 400 – 500 ลบ. เพิ่มขึ้น QoQ จากฤดูกาลของการส่งออก และราคาส่งออกไก่ดีขึ้นเล็กน้อย QoQ แต่ลดลงเกือบ 50%YoY จากราคาหมูในประเทศและเวียดนามที่ลดลง YoY และต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้น มีค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาร้าน Fresh market สิ้น 2Q64 อยู่ที่ 17 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะทำได้ที่ 70 สาขา สูงกว่าเป้าที่ 50 สาขา มีระยะเวลาคืนทุน 4 เดือน และคาดว่า 4Q64 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สดุของปี หากสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น มีการคลายลอ็คดาวนม์ากขึ้นต่อเนื่อง โดยธุรกิจ Fresh mart เริ่มมีรายได้ที่มีนัยสำคัญมากขึ้นบ้าง สาขาเริ่มมีกำไร และจะมีรายได้และกำไรที่มีนัยสำคัญมากขึ้นในปี 256 5และธุรกิจ Further คาดว่าจะมีกำไรเต็มไตรมาสครั้งแรกใน 4Q64 และเต็มปีในปี 2565

ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบแล้วคงคำแนะนำซื้อ

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจร้านสะดวกซื้อสาหรับเนื้อสดในรูปแบบตลาดสดภายใต้ชื่อร้าน Thai foods freshอmarket เนื่องจากเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อสัตว์ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมดีขึ้น และรายได้เริ่มมีนัยสำคัญเร็วกว่าคาด ปัจจุบันอยู่ที่ราว 250ลบ./ไตรมาส จาก 17 สาขา และคาดว่าจะมีนัยสำคัญมากขึ้นในปี 2565 ซึ่งธุรกิจนี้ยังไม่รวมในประมาณการของเรา ผลของการปรับประมาณการลง และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 อิง PER ที่ 16 เท่า ได้ราคาเป้าหมายลดลงเป็น 6.00 บาท ยังมี Upside gain อีก 31.6% จึงคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาปัจจุบันซื้อขายด้วย PER2565 เพียง 12.2 เท่า ราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ขณะที่ 4Q64 ต่อเนื่องถึงปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน

- Advertisement -