บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

NFORCE SECURE PCL นักรบ Cybersecurity ตัวจริงในตลาดหุ้นไทย

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +27.1%

Close Sep 6, 2021 Price (THB) 24.70

12M Target (THB) 31.40

Previous Target (THB) 24.20

What’s new?

  • SECURE ปิด Deal สำคัญกับ Vendor รายใหม่ 3 ราย ได้แก่ Cloudflare, Bitglass, และ Beyond Trust ซึ่งเป็น Vendor ชั้นนำในตลาด Cyber security ท่ีมีสินค้าหลากหลายอยู่คนละ Segment และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
  • ส่งผลให้ SECURE ปรับเพิ่ม Guidance รายได้ปี 2565 จาก 15% YoY เป็ น 20% YoY

Our View

  • เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นเป็น 99 ล้านบาท (+39%YoY) และปรับเพิ่ม PER65 ขึ้นเป็น 33.5 เท่า เพื่อให้สะท้อน Vendor รายใหม่ท่ีแข็งแกร่งบนมือ
  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้น ปี 2565 ท่ี 31.40 บาทต่อหุ้น เรามอง SECURE เป็นตัวแทนของโอกาสเติบโตตลาด Cybersecurity ในยุค 5G ของประเทศไทย

มุมมองเป็นบวกหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหาร

  • SECURE ประกาศเปิด 3 Vendors รายใหม่ ได้แก่ i) Cloudflare (NYSE:NET) ซึ่งเป็นผู้นำด้าน Content Delivery Network (CDN) และ Domain Name System (DNS )ท่ีจดทะเบียนในตลาด Nasdaq มูลค่าตลาด 4.1 หมื่นล้านเหรียญ, ii) Bitglass (Non-Listed) ซึ่งเป็นผู้นำด้าน Cloud Access Security Broker (CASB) ที่ติดอันดับผู้นำจาก Gartner Research ด้าน Security ที่อยู่ระหว่าง Cloud Security ที่ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่นิยมในกลุ่มธนาคาร และ iii) Beyond Trust (Non-Listed) ซึ่งเป็นผู้นำในบริการป้องกันการเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูล (Data Breaches) ที่ใช้งานโดยทั่วไปในบริษัทฯ Fortune 100
  • SECURE ตั้งเป้าหมายรายได้จากทั้ง 3 Vendors ใหม่ ท่ีราว 1 ล้านเหรียญต่อปีใน 2H64 และราว 2 ล้านเหรียญในปี 2565 โดยการปิด Vendor ใหม่เป็นรายได้ส่วนเพิ่มจากเป้าหมายการเติบโตปกติของบริษัทฯ ท่ีปีละ 15% หากทำได้ตามเป้าหมาย เราคาดบริษัทฯจะเติบโตของรายได้ปี 2565 ที่ระดับ 20%YoY ขณะที่มูลค่าตลาดเฉพาะ Cloudflare อย่างเดียวก็มีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะยังไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทย แต่เป็นอนาคตของอุตสาหกรรม Cybersecurity
  • ภาพรวมอุตสาหกรรมในระยะยาว ผู้บริหารประเมินการเติบโตของตลาด Cybersecurity โดดเด่น จาก Penetration ของประเทศไทยที่ยังต่ำ และการเติบโตของปริมาณข้อมูลมหาศาลในยุค 5G ซึ่งมีมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของ Operators รายใหญ่ในประเทศไทยอย่าง ADVANC ซึ่งให้ข้อมูลในงานสัมมนากับเราว่าการเติบโตในยุค 5G จะอยู่ตลาด Enterprise นำโดยสินค้ากลุ่ม Cybersecurity และ Cloud เป็นหลัก
  • ในระยะสั้น SECURE จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ใน 3Q64 แม้ความต้องการจะแข็งแกร่งแต่งานด้าน Cybersecurity จำเป็นต้องไปติดตั้งท่ีหน้างานของลูกค้าท่ีมีข้อจำกัดในช่วงการ Lockdown ที่เข้มข้นในประเทศไทย นอกจากนี้ Hardware ส่วนใหญ่ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะการขาดแคลนชิ้นส่วน Semiconductor ทำให้มี Lagtime ในการนำเข้าสินค้าเพ่มขึ้น ดังนั้น การบันทึกรายได้ไม่ได้ทำให้ผลประกอบการ 3Q64 อาจไม่โดดเด่น แต่ไม่ใช่ภาพที่แท้จริงของอุตสาหกรรมที่ Demand จะแข็งแกร่งไปอีกหลายปี การรับรู้งานเพียงแต่ล่าช้าออกราว 1-2 ไตรมาส
  • แม้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ผู้บริหารคงเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2564 ที่ 800 ล้านบาท (+26.2%YoY) จาก 1H64 ที่แข็งแกร่ง และการเริ่มออกไปติดตั้งงานได้แล้ว เราคงประมาณการปี 2564 ยอดขาย 796 ล้านบาท (+25.5%YoY) และกำไรปกติปี 2564 ที่ 71 ล้านบาท (+62%YoY)
  • พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลถูกภาครัฐเลื่อนออกไป 1 ปี เริ่ม 1 มิ.ย. 2565 โดย SECURE ยังคาดหวังรายได้จากลูกค้าเฉพาะสินค้าสำหรับ PDPA ที่ราว 20 ล้านบาท
  • เงินท่ีได้รับจากการ IPO ราว 444 ล้านบาท บริษัทฯอยู่ระหว่างมองหากิจการเพื่อท่ีจะ M&A โดยคาดจะเห็นความคืบหน้าในช่วง 4Q64 ภายใต้งบลงทุนราว 200 ล้านบาท เป็น Upside Risk ท่ียังไม่รวมในประมาณการของเราและตลาด

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 31.40 บาทต่อหุ้น

เราคงคาดกำไรปกติปี 2564 ที่ 71 ล้านบาท (+203%YoY) แต่ปรับเพิ่มกำไรปี 2565 เป็น 99 ล้านบาท (+39%YoY) จากการปรับเพิ่มสมมติฐานรายได้ปี 2565 เป็นเติบโต 20%YoY เราปรับเพิ่ม PER ขึ้นจาก 30.4x ขึ้นเป็น 33.5x ให้สะท้อน Premium ที่ควรได้เพิ่มขึ้นจากการปิด Vendor ใหญ่ระดับโลกเพิ่มเติม เราประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 31.40 บาทต่อหุ้น เราเลือก SECURE เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ICT Small Cap และให้เป็นตัวแทนการเติบโตของ Cybersecurity ในประเทศไทย

- Advertisement -