ตลาดหุ้นวานน้ี:

SET Index แกว่งตัวพักฐานตามคาด โดยปิดลบ 11.92 จุด ณ สิ้นวัน หลังปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนหน้า โดยเริ่มมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่หลายกลุ่ม ส่วนกลุ่มที่ประคองตลาด คือกลุ่มสื่อสารฯ สถาบันในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1.1 พันลบ.และ 868 ลบ.ตามลำดับ (แต่ต่างชาติพลิกมา Long Index Future 8.4 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราประเมิน SET Index ยังอยู่ในช่วงแกว่งพักตัวต่อเนื่อง และถูกกดดันจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ จากคาดการณ์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้ผ่าน Peak ไปแล้ว และจะเริ่มชะลอตัว ส่วนทางเทคนิค หลังวานนี้ดัชนีหลุดแนวรับย่อย 1,640 จุด ทำให้คาดว่ามีแนวโน้มอ่อนตัวลงทดสอบระดับถัดไปที่ 1,614-1,620 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามนอกเหนือจากการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ คือการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในวันท่ี 10 ก.ย. ซึ่งคาดมีการทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เฟส 2 สำหรับกิจกรรมที่เสี่ยงมากขึ้น รวมถึงแผนการทยอยเปิดเมืองท่องเที่ยวในประเทศเป็นลำดับ และเริ่ม Bubble กับประเทศเพื่อนบ้านในส่วนชายแดนใน 1Q22 กลยุทธ์ เรามองจังหวะพักฐานของตลาดเป็นโอกาส “สะสมหุ้นกลับ” หลังทำกำไรระยะสั้นแล้วบางส่วนไปแล้ว โดยแนวรับระยะสั้นท่ี 1,620+- จุด สวนระดับหลัก คือ 1,600+- จุด โดยยังเน้นกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ซึ่งฟื้นตัวตามเศรษฐกิจภาพใหญ่ ได้แก่ ธนาคาร โรง กลั่น ไฟแนนซ์ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว เป็นต้น

กลยุทธ์: สะสมหุ้นกลับในช่วงตลาดพักตัวบริเวณ 1,600-1,620 จุด หลังทำกำไรระยะสั้นบางส่วนไปแล้ว

หุ้นเด่นเดือนก.ย.: BDMS, CPALL, CRC, M, TACC

หุ้นเด่นวันนี้: TU

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 30 บาท
  • เรามอง TU เป็น Innovative Company ไม่ใช่เพียง Tuna Company อีกต่อไป ภายหลังเห็นทิศทางและกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการมุ่งสู่ Innovative Product สำหรับคนและสัตว์เลี้ยง จนเริ่มเห็นสัดส่วนรายได้กลุ่มนี้ที่ทยอยสูงขึ้น ช่วยให้บริษัทลดการพึ่งพิงรายได้จากทูน่า คาดกำไรปี 2021-2022 +19% Y-Y และ +3% Y-Y ตามลำดับ
  • โดยมีการปลดล็อคมูลค่าแฝงของบริษัทลูก การ Spin-Off ธุรกิจอาหารสัตว์ เศรษฐกิจใน 4Q21 และอาหารสัตว์เลี้ยงใน 3Q22 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการลงทุนภายใต้แนวคิด ESG ซึ่ง TU เป็นบริษัทแรกในกลุ่มอาหารที่ได้เตรียมความพร้อมมานานกว่า 8 ปี และเริ่มเห็นผลบวกที่เป็นรูปธรรมแล้ว
  • แนวรับ 19.80 บาท แนวต้าน 20.50//20.90 บาท

FundFlow:

วานนี้กระแสเงินทุนผสมผสานและไหลออกบางๆ US$13 ล้าน เม็ดเงินยังเข้ากระจุกตัวที่ไต้หวัน US$267 ล้าน แต่ไม่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$233 ล้าน ส่วนอาเชียนเม็ดเงินไหลเข้าอินโดนิเซีย US$14 ล้าน แต่ไหลออกจากไทยและเวียดนาม US$27-36 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนขาดพลิกมาไหลออกจาก Dollar Index ท่ีพลิกมาแข็งค่าเร็ว และเม็ดเงินที่ไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดยังกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อาจเริ่มฟื้นตัวในอัตราที่ชะลอลง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) NCAP เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทั้งธุรกิจเดิมที่ให้บริการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งได้อานิสงส์จากบริการ Delivery ที่เติบโตอย่างโดดเด่น ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 และมี Market Share เพิ่มขึ้นเป็น 3.5% ใน 2Q21 นอกจากนี้ยังต่อยอดธุรกิจใหม่ ทั้งสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ รวมถึงการให้บริการสินเชื่อสำหรับอุปกรณ์ IT ของบริษัทแม่อย่าง SYNE X  และ COM7 เราคาดกำ ไร ปี 2020-2023 เติบโต +38%CAGR ให้ราคาเป้าหมายปี 2022 ท่ี 16.80 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(-) XO แนวโน้มกำไร 3Q21 จะลดลง Q-Q สอดคล้องกับที่เราประเมินในช่วงก่อนหน้า เป็นผลจากคำสั่งซื้อที่อ่อนลง และยังมีปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน รวมถึงเกิดปัญหา Lead Time ขวดพลาสติดที่นานขึ้น เพราะ Supplier โรงงานติดเชื้อ COVID-19 ขณะที่ 4Q21 ยังคงต้องติดตามการฟื้นตัว เราคาดกำไรปี 2021 +44% Y-Y ส่วนปี 2022 คาดโตเพียง +2% Y-Y จากฐานสูง คงราคาเป้าหมาย 22 บาท แนะนำเพียง “ถือ” (กรรมการ และกรรมการตรวจสอบของ FINANSIA SYRUS เป็นกรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบของ XO)

(-) ตลาดดาวโจนส์ลดลง 269.09 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 35,100.00 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า หลังนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดว่า ในปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 5.7% ลดลงจากคาดการณ์เดิมท่ี 6%

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบท่ามกลางการซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB)ใน วันพฤหัสบดีนี้

(-) ตลาดเอเชียปรับลงตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ และแรงขายทำกำไรหุ้นที่ปรับขึ้นในช่วงก่อนหน้า

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.73 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 68.35 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลล่าร์ และซาอุดิอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันดิบทุกเกรด สำหรับลูกค้าเอเชียลงอย่างน้อย 1 ดอลลาร์/บาร์เรล ในเดือนต.ค. ซึ่งมากกว่าโรงกลั่น คาดว่าจะปรับลดเพียง 20-40 เซนตื/บาร์เรล

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 35.2 ดอลลาร์ หรือ 1.92% ปิดท่ี 1,798.5 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่า ของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 998.52 / +-

- Advertisement -