Our View? “ปรับขึ้น”

ภายใต้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มข้ึน 3.1% อยู่ที่ 72.61 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่นเดียวกับสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มข้ึน 2.5% อยู่ที่ 75.46 ดอลลาร์/บาร์เรล และเป็นระดับสูงสุดนับจากปลายเดือนก.ค. ที่ผ่านมา จากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ลดลง 6.4 ล้านบาร์เรล ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 และมากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 3.5 ล้านบาร์เรล ทำให้เกิดความเช่ือมั่นว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

ขณะที่ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) อยู่ท่ีระดับ 34.3 ในเดือนก.ย. เพิ่มข้ึนจาก 18.3 เมื่อเดือนส.ค. และดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 18.0 จากคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงานท่ีเร่งตัว รวมทั้งความเชื่อมั่นของบริษัทในภาคการผลิต

อย่างไรก็ตาม แนะติดตามการประชุมเฟด 21-22 ก.ย.น้ี เพื่อหาสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE และการปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อท่ีต่ำกว่าคาด

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ โดยยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ที่ดีข้ึนตามลำดับ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ยต่ำกว่า 15,000 คน ลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่สูงกว่า 20,000 คน/วัน พร้อมกับการกระจายและฉีดวัคซีนที่เร่งตัว ล่าสุดตัวเลขฉีดวัคซีนเข็ม 1 อยู่ที่ ประมาณ 40% ของประชากร หรือ 28 ล้านคน จากเป้าหมายสิ้นปีนี้ที่ 50 ล้านคน ทำให้คาดมีโอกาสกลับมาเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามแผน โดยเริ่มจาก Phase II และ III ในเดือนตุลาคมน้ี มีแผนขยายพื้นที่รวมอีก 26 จังหวัด ต่อเนื่องจาก Phuket Sand Box ซึ่งเปิดไปเมื่อ 1/7/64 ที่ผ่านมา คาดช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่ม Re-opening Theme กลับมาฟื้นตัวได้บ้างใน 4Q/64

แนะติดตาม FTSE Rebalance มีผล ณ ราคาปิดวันที่ 17/9/64

“Large Cap Index” หุ้นเข้า ได้แก่ BBL และ KBANK หุ้นออก ได้แก่ BBL-F, BBL-R (NVDR), KBANK-F, KBANK-R (NVDR), AWC, BJC และ DIF

“Mid Cap Index” หุ้นเข้า ได้แก่ AWC, BJC และ DIF หุ้นออก –ไม่มี

“Small Cap Index” หุ้นเข้า ได้แก่ JMART และ STARK หุ้นออก ได้แก่ FTREIT

“Micro Cap Index” หุ้นเข้า ได้แก่ 7UP, AGE, AS, BRR, BYD, CHAYO, CSS, CWT, DUSIT, ETC, FSS, INOX, IRC, JKN, KISS, MDX, MICRO, NWR, OISHI, PRM, PROSPECT, SABUY, SAK, SITHAI, SKN, SVOA และ XPG หุ้นออก ได้แก่ AIMCG, BFIT, BIG, DCC, GRAND, JMART, MJLF, RBF, RCL, SCP, SF และ SPRIME

หุ้นแนะนำวันนี้ “PTT” คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงานของกลุ่มสำรวจและผลิตและก๊าซ แนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 2H/64 พร้อม OR เป็นกลยุทธ์สำคัญของ PTT ที่จะขยายธุรกิจไปยัง non-Oil มากขึ้น รวมถึงแผนการลงทุนเพื่อเข้าสู่ New S-Curve เช่น ธุรกิจยา ธุรกิจ Nutrition และธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ขณะที่ในระยะสั้นคาดประกาศเงินปันผล 1H/64 ประมาณ 0.80 – 1.00 บาท/หุ้น ประเมินราคาเป้าหมายปี ’64 ที่ 48.00 บาท (SOTP)

- Advertisement -