ตลาดหุ้นวานน้ี:

SET Index โดยรวมยังแกว่งตัว Sideways ตามคาด ปิดบวกอีกเล็กน้อย 3.66 จุด และการปรับตัวของหุ้นและ Sector ค่อนข้างกระจัดกระจาย สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 553 ลบ. และ 1.4 พันลบ. (ต่างชาติ Short Index Future อีกเล็กน้อย 2.9 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันน้ี:

เราประเมิน SET Index ยังแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,620- 1,640 จุด กลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยบวกลดลง หลังความเสี่ยงเรื่องการผลิตน้ำมันของสหรัฐจากพายุเฮอร์ริเคนนิโคลาสเริ่มลดลง ส่วนตัวเลขค้าปลีกเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางตลาด คาดส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าเร็ว กดดันสกุลเงินเอเชีย รวมถึงเงินบาทอ่อนค่า เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออกที่ปรับฐานมากพอสมควร ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามยังอยู่ในสัปดาห์หน้าคือ การประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง โดยเฉพาะ FED ที่ตลาดประเมินว่าจะมีการพิจารณาลด QE แต่การประกาศใช้จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือน พ.ย. ส่วนในประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์ COVID-19 การผ่อนคลาย Lockdown และกระตุ้นการท่องเที่ยวในเดือนต.ค. เรายังมองจังหวะพักตัวของดัชนีเป็นโอกาส “ทยอยสะสม” ระยะกลางยาวยังชอบกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ได้แก่ ธนาคาร โรงกลั่น ไฟแนนซ์ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว ที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจไทย

กลยุทธ์: เน้นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว และสะสมหุ้นกลับในช่วงตลาดพักตัวบริเวณ 1,620//1,600 จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ย.: BDMS, CPALL, CRC, M, TACC

หุ้นเด่นวันนี้: IP

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท
  • เรามีมุมมองเชิงบวกจากการประชุมเมื่อวานนี้ ด้วยการซื้อ 2 โรงงานผลิตยา Modern Pharma และ Teva ทำให้ IP มี Capacity เพียงพอในการเติบโตระยะยาวสำหรับการขยายตลาดทั้ง B2B และ B2C โดยเฉพาะการออนสินค้าใหม่
  • ปัจจุบันเริ่มขายผลิตภัณฑ์ JV กับ TU ให้โรงพยาบาลแล้ว และ 4Q21 จะเริ่มทำตลาดไซริงค์และหลอดเลือดร่วมมือกับ PJW ส่วนผลิตภัณฑ์กัญชงคาดเริ่มขาย 1Q22
  • ยังคาดกำไรปี 2021-2022 +106% Y-Y และ +35% Y-Y
  • แนวรับ 21//21.50 บาท แนวต้าน 22.50//23.50 บาท

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) GPSC แจ้งหยุดเดินเครื่องนอกแผนของโรงไฟฟ้า Glow Phase5 เพราะเกิดการลัดวงจรของ Generator คาดกลับเดินเครื่องได้ต้นปี 2022 ไม่กระทบต่อลูกค้า IU และมีประกันครอบคลุม และ Business Interuption อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่ายังมีผลกระทบกับกำไรของ GPSC ราว 300 ลบ. แต่คาดสามารถชดเชยได้จากมูล ค่าที่เพิ่ขึ้นจากการลงทุนใน Avaada และ CI ยังคงราคาเป้าหมาย 100 บาท แนะนำ“ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) SMT แนวโน้มกำไร 3Q21 ยังดูดีต่อเนื่อง คาด +3% Q-Q, +40% Y-Y แม้เดือนก.ค. จะมีปัญหาแรงงานติดเชื้อของโรงงานหลายแห่งในอยุธยา แต่ SMT เจอเพียงเล็กน้อย และสามารถควบคุมได้ทัน ไม่มีการหยุดสายการผลิต ขณะที่ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย จึงยังส่งมอบสินค้าได้ตามแผน คาดกำไร 4Q21 เป็นจุดสูงสุดของปีนี้ และได้ประโยชน์จากบาทอ่อน คาดกำไรปี 2021+175%Y-Y และปี 2022+33%Y- Y คงราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 8 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) RBF พัฒนาการล่าสุดบริษัทได้รับเมล็ดพันธ์กัญชงที่นำเข้าแล้ว กำลังเตรียมลงเพาะในโรงเรือนก่อน 1-2 เดือน หลังจากนั้นจะย้ายลงดิน (เตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว)ใช้เวลาอีก 1-2 เดือน รวมเป็น 3-4 เดือน คาดได้ผลผลิตอย่างเร็วในเดือน ธ.ค.21-ม.ค. 22 โดยรวมยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ลำดับถัดไปต้องติดตามความคืบหน้าของการปลูก และมีลูกค้ารองรับ และเซ็นสัญญาแล้ว เรายังคงคาดกำไรปี 2021-2022 Flat Y-Y และ +100% Y-Y คงราคาเป้าหมายปี 2022 ท่ี 21 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”

(+) FTSE Rebalance มีผลเย็นวันนี้ Large Cap หุ้นเข้า KBANK BBL หุ้นออก KBANK-F KBANK-NVDR BBL-F BBL-NVDR BJC AWC DIF ส่วน Mid Cap หุ้นเข้า BJC AWC DIF ไม่มีหุ้นออก ส่วน Small Cap หุ้นเข้า STARK JMART หุ้นออก FTREIT

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 63.07 จุด หรือ 0.18% ปิดท่ี 34,751.32 จุด แม้มีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ปรับขึ้น 0.7%M-M ส่วนทางนักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.8% M-M และเทียบ Y-Y จะเพิ่มขึ้น 15.1% จากการใช้จ่ายในช่วงก่อนเปิดเทอมการศึกษาในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ถูกกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.331%

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเดินทาง หลังสายการบินและไรอันแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ปรับเพิ่มคาดการณ์การเดินทางทางอากาศในระยะยาว ชดเชยการปรับลงของหุ้น กลุ่มเหมืองแร่ หลังจีนเปิดเผยแผนการที่จะระบายโลหะออกจากคลังสำรอง

(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสมแม้มีปัจจัยบวก จากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่ง แต่กดดันจากการปรับลงของตลาดดาวโจนส์ ขณะที่ติดตามการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นของสหรัฐเดือนก.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.14 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทรงตัวที่ระดับ 72.61ดอลลาร์/บาร์เรลหลังมีรายงานว่าการส่งออกน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง ส่วนการผลิตในอ่าวเม็กซิโกที่ปิดทำการอยู่มีเพียง 28% ซึ่งดีกว่าในช่วงที่ผ่านมาที่การผลิตถูกระงับกว่า 50% หลังถูกกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนไอดา และเฮอริเคนนิโคลัส

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 38.1 ดอลลาร์ หรือ 2.12% ปิดที่ 1,756.7 ดอลลาร์/ออนซ์จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 999.92 / +1.46

- Advertisement -